ที่มา : วารสารส่งเสริมการลงทุน เดือนเมษายน 2555
โดย : คุณสถาปนา พรหมบุญ
นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน ระดับชำนาญการ
สำนักบริหารการลงทุน 1
1. หากต้องการจะนำเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในประเทศ บริษัทจะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้าได้ตามมาตรา 30 ในกรณีใดบ้าง
ตอบ :
การได้รับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 นี้ เป็นการลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น สำหรับของที่ไม่มีผลิตหรือมีกำเนิดในราชอาณาจักร ซึ่งมีคุณภาพใกล้เคียงกัน และมีปริมาณเพียงพอที่จะจัดหามาใช้ได้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
2. การนำเข้าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นตามมาตรา 30 มีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง
ตอบ :
ตามประกาศที่ ป.9/2544 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2544 เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติรายการวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น มาตรา 30 กำหนดหลักเกณฑ์ ดังนี้
3. หากบริษัทได้รับสิทธิและประโยชน์มาตรา 30 และประสงค์ที่จะใช้นำเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น บริษัทจะต้องยื่นบัญชีวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นต่อบีโอไอเมื่อใด
ตอบ :
ตามประกาศ ที่ ป.10/2544 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2544 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ ในการขออนุมัติลดหย่อนอากรขาเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นตามมาตรา 30 นั้น
กำหนดให้บริษัทจะต้องยื่นขออนุมัติรายการวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น และตัวอย่างหรือภาพถ่ายของวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น ที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิและประโยชน์ลดหย่อนอากรขาเข้าต่อบีโอไอ ก่อนการนำเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น ไม่น้อยกว่า 2 เดือนสำหรับปีแรก
สำหรับการขอขยายเวลาการใช้สิทธิและประโยชน์มาตรา 30 นั้น บริษัทจะต้องยื่นขออนุมัติต่อบีโอไอในรอบปีถัดไป ก่อนสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าไม่น้อยกว่า 2 เดือน ทั้งนี้ เพื่อจะได้มีเวลา ในการพิจารณารายการวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นที่จะใช้สิทธิ์ รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการใช้สิทธิ์ต่อไป
ตัวอย่างเช่น หากบริษัทประสงค์จะนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 บริษัทจะต้องยื่นขออนุมัติก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2555
4. บริษัทสามารถนำเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นตามมาตรา 30 ย้อนหลังได้หรือไม่
ตอบ :
เนื่องจากการใช้สิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 จะต้องยื่นบัญชีรายการวัตถุดิบและวัสดุจำเป็น ก่อนนำเข้าไม่น้อยกว่า 2 เดือน การใช้สิทธิ์ย้อนหลังจึงไม่สามารถกระทำได้
5. หากบริษัทได้ใช้สิทธิและประโยชน์มาตรา 30 ไปแล้ว 1 ปี แต่ปีต่อมา เกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้า บริษัทจะของดใช้สิทธิและประโยชน์มาตรา 30 ในปีที่ 2 และจะขอใช้สิทธิและประโยชน์อีกครั้งในปีที่ 3 กรณีนี้จะทำได้หรือไม่
ตอบ :
การได้รับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 ตามเกณฑ์ที่ตั้งในเขตนิคมอุตสาหกรรม เขต 3 นั้น เป็นการได้รับสิทธิและประโยชน์ เป็นระยะเวลา 5 ปีต่อเนื่องกัน การงดใช้สิทธิ์ดังกล่าว สามารถกระทำได้ แต่จะเสียสิทธิ์ในปีนั้น ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับการให้สิทธิและประโยชน์ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 31
ในกรณีนี้ ถึงแม้บริษัทไม่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ แต่ยังคงจะต้องยื่นขอขยายเวลาเพื่อรับสิทธิ์ตามมาตรา 30 อย่างต่อเนื่อง
6. หากบริษัทได้รับสิทธิและประโยชน์มาตรา 30 จะต้องขออนุมัติปริมาณการผลิตสูงสุดและสูตรการผลิตด้วยหรือไม่
ตอบ :
ผู้ได้รับการส่งเสริมฯ ที่ได้รับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 และได้รับอนุมัติบัญชีรายการวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นจากบีโอไอแล้ว จะต้องยื่นขออนุมัติปริมาณอนุมัติสูงสุดและสูตรการผลิต ทุกรอบปี โดยแนบเอกสารและหลักฐาน ดังนี้
สำหรับผู้ได้รับการส่งเสริมฯ ที่ได้รับขยายเวลาสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 และไม่มีการเพิ่มรายการวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น บีโอไอจะอนุญาตให้นำสูตรการผลิต ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วมาใช้ต่อไปได้ โดยไม่ต้องยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตใหม่
การขออนุมัติสูตรการผลิตนั้น จะดำเนินการหลังจากบริษัทได้ทำการผลิตแล้ว เพื่อที่จะได้จัดทำสูตรการผลิตที่ถูกต้อง ทั้งนี้ จะต้องยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตจากบีโอไอก่อนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
7. ส่วนสูญเสียของวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นตามมาตรา 30 มีวิธีจัดการอย่างไร
ตอบ :
ส่วนสูญเสียตามมาตรา 30 แบ่งออกเป็น 2 กรณี ซึ่งมีภาระภาษีอากรแตกต่างกัน ดังนี้
8. หากสิ้นสุดระยะเวลาการได้รับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 แล้ว วัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นที่นำเข้า โดยได้รับการลดหย่อนอากรขาเข้า จะต้องใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาเท่าใด
ตอบ :
จะต้องใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริมฯ ภายใน 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาการนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุมัติให้ขยายเวลาตามมาตรา 30 ออกไปอีก วัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นคงเหลือจะสามารถโอนไปใช้ในรอบปีถัดไปได้ โดยจะนำไปหักจากปริมาณที่จะได้รับอนุมัติให้นำเข้าในรอบปีถัดไป สำหรับในปีสุดท้าย หากไม่ได้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ภายในกำหนดเวลา จะต้องชำระอากรขาเข้าตามสภาพ ณ วันนำเข้า สำหรับวัตถุดิบคงเหลือนั้น
9. หากสิ้นสุดระยะเวลาการได้รับสิทธิและประโยชน์ตามมาตรา 30 แล้ว ผู้ได้รับการส่งเสริมฯ จะต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ :
จะต้องจัดทำรายงานสรุปการใช้วัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น ส่งให้บีโอไอทราบภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่สิ้นสุดระยะเวลาใช้วัตถุดิบให้หมดตามข้อ 9. (สรุป บริษัทมีเวลา 7 เดือน ที่จะดำเนินการปิดบัญชี เมื่อสิ้นสุดวันครบกำหนดการใช้สิทธิและประโยชน์มาตรา 30) โดยแนบเอกสาร ดังนี้
หากสรุปยอดคงเหลือ (ตัดบัญชี) ไม่หมด (มีวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นคงเหลือ อาจจะเป็นเพราะมีการนำเข้ามากกว่าปริมาณที่ใช้ผลิตจริง) บริษัทจะต้องชำระอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ตามสภาพ ณ วันนำเข้า ตามจำนวนวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นที่เหลืออยู่
pageview 10,624
Total Pageviews 5,063,622 since January 2014