หน้าแรก
|
เว็บบอร์ด
|
อ่านกระทู้ถามตอบ
การเปิดดำเนินการ
การตรวจสอบเงื่อนไขตามบัตรส่งเสริม
การเปิดดำเนินการ จะยื่นขอเปิดเนินการก่อนครบกำหนดหรือเมื่อครบกำหนดแล้วก็ได้ โดยจะมีการตรวจสอบเงื่อนไขให้เป็นไปตามบัตรส่งเสริมอย่างถูกต้อง ดังนี้
- เครื่องจักรที่ใช้ในโครงการ ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้
- เครื่องจักรทั้งหมดของโครงการ ต้องได้มานับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม จนถึงวันครบกำหนดเปิดดำเนินการ
- กรณีที่ได้เครื่องจักรมาก่อนวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม ต้องได้รับอนุมัติให้ใช้ในโครงการ จึงจะสามารถนำมาใช้ในโครงการที่ได้รับส่งเสริมได้
- สภาพของเครื่องจักร (เครื่องจักรใหม่ หรือเครื่องจักรใช้แล้ว) จะต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม ไม่ว่าจะได้มาโดยใช้สิทธิประโยชน์การยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรหรือไม่ก็ตาม
- เครื่องจักรในโครงการ ต้องสอดคล้องกับกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับอนุมัติ ไม่ว่าจะได้มาโดยใช้สิทธิประโยชน์การยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรหรือไม่ก็ตาม
- เครื่องจักรเก่าใช้แล้วที่ใช้ในโครงการ จะต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรเก่า ไม่ว่าจะนำเข้ามาโดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรหรือไม่ก็ตาม
- เครื่องจักรที่ซื้อในประเทศจะต้องเป็นเครื่องจักรใหม่เท่านั้น เว้นแต่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ เครื่องจักรในประเทศ หมายความรวมถึง เครื่องจักรที่ผ่านพิธีการนำเข้าจากเขตส่งออกของการนิคมอุตสาหกรรม เขตปลอดอากร (Free Zone) ของกรมศุลกากร หรือพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะในทำนองเดียวกันด้วย
- กรณีเป็นโครงการโยกย้ายสถานประกอบการ จะต้องมีเครื่องจักรตามรายการและจำนวนที่ได้รับอนุมัติให้โยกย้ายสถานประกอบการ แต่หากไม่ตรงตามที่ได้รับอนุมัติ จะต้องมีเครื่องจักรครบตามกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริม
- ต้องครอบครองเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากร ตามฐานข้อมูลการสั่งปล่อยเครื่องจักรของ BOI
- ทุนจดทะเบียน และการเรียกชำระมูลค่าหุ้น
- จะต้องมีทุนจดทะเบียน และเรียกชำระมูลค่าหุ้นในวันเปิดดำเนินการ ไม่ต่ำกว่าที่กำหนดเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม
- สัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลไทย
- กรณีที่มีการกำหนดเงื่อนไขการถือหุ้นของบุคคลที่มีสัญชาติไทย จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขนั้น
- ชนิดผลิตภัณฑ์หรือบริการ และกำลังผลิต
- ผลิตภัณฑ์หรือบริการของโครงการ จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม
- กำลังผลิตที่คำนวณได้จากเครื่องจักรในขั้นตอนการผลิตหลักที่ติดตั้งอยู่จริง จะต้องเป็นไปตามกำลังผลิตที่กำหนดในบัตรส่งเสริม
- กรรมวิธีการผลิต
- ต้องมีกรรมวิธีการผลิตหรือการบริการ เป็นตามที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม
- ขนาดการลงทุน
- จะต้องมีขนาดการลงทุนขั้นต่ำ (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ไม่น้อยกว่าเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม
- รายการเงินลงทุน จะต้องเป็นการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง นับตั้งแต่วันที่ยื่นขอรับส่งเสริม จนถึงวันที่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ และทั้งนี้ สินทรัพย์ตามรายการเงินลงทุนดังกล่าว จะต้องมีอยู่ และใช้ในโครงการที่ได้รับการส่งเสริมนั้นจริง ณ สถานประกอบการในวันตรวจสอบเปิดดำเนินการ
- การคำนวณรายการเงินลงทุน ให้เป็นไปตามประกาศ สกท ที่ ป. 1/2545 เรื่อง การกำหนดความหมายรายการเงินลงทุน
- โครงการที่มีเงื่อนไขให้ปรับเปลี่ยนเงินลงทุนในวันเปิดดำเนินการ เพื่อปรับเปลี่ยนวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องตรวจสอบยืนยันมูลค่าเงินลงทุนที่แท้จริง เพื่อปรับเปลี่ยนวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้
- โครงการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามนโยบาย STI ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบผลการปฏิบัติการตามเงื่อนไขว่าถูกต้องหรือไม่ จะต้องตรวจสอบยืนยันมูลค่าเงินลงทุนที่แท้จริง เพื่อคำนวณว่ามีค่าใช้จ่ายด้าน STI เป็นไปตามสัดส่วนของมูลค่าเงินลงทุนที่แท้จริงหรือไม่
- ที่ตั้งโรงงานหรือสถานประกอบการ
- จะต้องตั้งโรงงานหรือสถานประกอบการในท้องที่ตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม
- เงื่อนไขอื่น ๆ
จะต้องดำเนินการให้ได้ตามเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนดในบัตรส่งเสริม เช่น
- กรณีมีเงื่อนไขจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องได้รับความเห็นชอบในรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ ENVIRONMENTAL IMPACT ASSESSMENT (EIA)
- กรณีมีเงื่อนไขจะต้องได้รับความเห็นชอบด้านสิ่งแวดล้อมจากกระทรวงอุตสาหกรรม จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือมีใบอนุญาตประกอบกิจการ (รง.4) ในส่วนที่ขออนุญาตเปิดดำเนินการนั้น
- เงื่อนไขวันเปิดดำเนินการ
- จะต้องเปิดดำเนินการภายในเวลาตามเงื่อนไขที่ระบุในบัตรส่งเสริม หรือหนังสืออนุญาตให้ขยายเวลาเปิดดำเนินการ
การตรวจสอบสถานประกอบการ
ในการตรวจสอบโรงงาน/สถานประกอบการ BOI จะตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- ที่ตั้งโรงงาน/สถานประกอบการ จะต้องตรงตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม
- กรรมวิธีการผลิต จะต้องตรงตามที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม
- เครื่องจักรและอุปกรณ์ จะตรวจสอบดังนี้
- รายละเอียดเครื่องจักรและอุปกรณ์ จะต้องตรงกับที่ระบุในแบบขออนุญาตเปิดดำเนินการ (F PM OP 01) และจะต้องอยู่ในสถานประกอบการครบทุกรายการ เว้นแต่ได้รับอนุมัติไว้เป็นอย่างอื่น
- เครื่องจักรและอุปกรณ์ ทั้งที่ซื้อในประเทศ และที่นำเข้าโดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้น/ลดหย่อนอากรเข้า จะต้องสอดคล้องกับกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับอนุมัติ และครบทุกกระบวนการผลิต
- ชนิดผลิตภัณฑ์หรือบริการ จะต้องตรงตามเงื่อนไขที่ระบุในบัตรส่งเสริม
- กำลังผลิต จะตรวจสอบกำลังผลิตของโครงการในประเด็นดังนี้
- ขั้นตอนการผลิตที่สำคัญของโครงการ
- ชื่อและจำนวนเครื่องจักรที่ใช้ในขั้นตอนการผลิตที่สำคัญของโครงการ
- คำนวณกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร ตามข้อ 2) โดยใช้ข้อมูล เช่น การจับเวลาทำงานจริงของเครื่องจักร รายงานผลการผลิตประจำวัน/สัปดาห์/เดือน Spec ของเครื่องจักร และเวลาทำงานตามที่ระบุในบัตรส่งเสริม
ทั้งนี้ ในการคำนวณกำลังผลิตให้ใช้ค่าสัมประสิทธิ์ตั้งแต่ 0.8 - 1.0 ตามข้อเท็จจริงของแต่ละอุตสาหกรรม โดยคำนึงเผื่อถึงระยะเวลาต่างๆ เช่น การซ่อมบำรุง การเปลี่ยนแม่พิมพ์ และการทำความสะอาดเครื่องจักร เป็นต้น
อนึ่ง โครงการที่ใช้ยานพาหนะเพื่อให้บริการ หรือโครงการไม่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง เช่น กิจการขนส่งทางเรือ กิจการประมงน้ำลึก เมื่อตรวจสอบเงื่อนไขพื้นฐานถูกต้องแล้ว จะออกใบอนุญาตเปิดดำเนินการให้ก่อน แล้วจึงจะทำการตรวจสอบในภายหลังเมื่อยานพาหนะนั้นอยู่ในประเทศ
การพิจารณากำหนดกำลังผลิตของโครงการ
กรณีที่ตรวจสอบโรงงาน/สถานประกอบการ แต่พบว่ากำลังผลิตที่คำนวณได้ ไม่ตรงกับกำลังการผลิตที่ระบุในบัตรส่งเสริม จะพิจารณาดังนี้
- ถือว่ากำลังผลิตครบโครงการ
เมื่อกำลังผลิตที่คำนวณได้ อยู่ระหว่าง 80% - 120% ของกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม
- ถือว่ากำลังผลิตน้อยกว่าโครงการ
เมื่อกำลังผลิตที่คำนวณได้ ต่ำกว่า 80% ของกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม
- ถือว่ากำลังผลิตมากกว่าโครงการ
เมื่อกำลังผลิตที่คำนวณได้ เกินกว่า 120% ของกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม
กรณีที่กำลังผลิตตามที่คำนวณได้ ไม่ตรงกับบริษัทยื่นขอเปิดดำเนินการ บริษัทสามารถทำการชี้แจงเพิ่มเติมได้ และเมื่อกำลังผลิตตามที่คำนวณได้เป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่ายแล้ว BOI จะเปิดดำเนินการตามที่ตรวจพบและบริษัทยอมรับด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้
กำลังผลิตที่ตรวจพบ |
น้อยกว่า โครงการ |
ต่ำกว่า 80% |
ลดกำลังผลิตเป็นเท่าที่ตรวจพบและบริษัทยืนยัน |
ครบโครงการ |
80%-100% |
เปิดตามบัตรส่งเสริม หรือลดกำลังผลิตเป็นเท่าที่ตรวจพบและบริษัทยืนยัน |
100% | เปิดตามบัตรส่งเสริม |
100%-120% |
เปิดตามบัตรส่งเสริม หรือเพิ่มกำลังผลิตเป็นเท่าที่ตรวจพบและบริษัทยืนยัน |
มากกว่า โครงการ |
มากกว่า 120% |
เพิ่มกำลังผลิตเป็นเท่าที่ตรวจพบและบริษัทยืนยัน |
กรณีเป็นโครงการโยกย้ายสถานประกอบการ จะตรวจสอบรายการและจำนวนเครื่องจักรว่าตรงตามที่ยื่นคำขอโยกย้ายสถานประกอบการหรือไม่
หากไม่ตรง จะต้องมีเครื่องจักรครบถ้วนตามขั้นตอนการผลิต และจะกำหนดกำลังผลิตของโครงการตามเครื่องจักรที่โยกย้ายมาติดตั้งอยู่จริง
เท่านั้น แต่ทั้งนี้ จะต้องไม่เกินกำลังผลิตของบัตรส่งเสริมโยกย้ายสถานประกอบการ
การกำหนดวันเปิดดำเนินการ
ในการอนุมัติเปิดดำเนินการ จะกำหนดวันเปิดดำเนินการ ดังนี้
- กรณียื่นขอเปิดดำเนินการก่อนครบกำหนด
ให้ใช้วันที่ BOI รับเรื่องการขอเปิดดำเนินการ เป็นวันเปิดดำเนินการ
- กรณียื่นขอเปิดดำเนินการในวันครบกำหนด หรือหลังจากวันครบกำหนดเปิดดำเนินการ
ให้ใช้วันครบกำหนดเปิดดำเนินการ เป็นวันเปิดดำเนินการ
การแก้ไขโครงการในขั้นตอนการเปิดดำเนินการ
กรณีที่ผลการตรวจสอบเปิดดำเนินการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในบัตรส่งเสริม บริษัทจะต้องขอแก้ไขโครงการให้ถูกต้อง โดยมีแนวทางดำเนินการดังนี้
- กรณีที่อนุญาตให้แก้ไขได้ โดยระบุรายละเอียดในคำขออนุญาตเปิดดำเนินการ เช่น
- การลดขนาดกิจการตามที่มีอยู่จริงและตรวจสอบพบ โดยไม่มีผลกระทบต่อสิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากร
- การเพิ่มกำลังผลิตตามที่มีอยู่จริงและตรวจสอบพบ
- การเพิ่มกำลังผลิตจากการเพิ่มเวลาทำงาน
- การยกเลิกชนิดผลิตภัณฑ์ สำหรับโครงการที่มีขนาดการลงทุนไม่เกิน 750 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน หรือโครงการที่ผลิตเพื่อการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ทุกขนาดกิจการ
- กรณีที่อนุญาตให้แก้ไขได้ โดยการยื่นขอแบบคำขอแก้ไขโครงการ ทั้งนี้ ให้ถือว่าเป็นเอกสารแนบที่ยื่นเข้ามานับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขออนุญาตเปิดดำเนินการ เช่น
- สัดส่วนผู้ถือหุ้น
- ทุนจดทะเบียน
- ที่ตั้งโรงงานหรือสถานประกอบการ
- ชนิดผลิตภัณฑ์
- สภาพเครื่องจักร
- กรรมวิธีการผลิต เป็นต้น
การตรวจสอบมูลค่าเงินลงทุนเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
โครงการที่มีเงื่อนไขปรับเปลี่ยนเงินลงทุนเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และโครงการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามนโยบาย STI แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบผลการปฏิบัติการตามเงื่อนไขว่าถูกต้องหรือไม่ จะดำเนินการตรวจสอบ ดังนี้
- วิธีการตรวจสอบรายการเงินลงทุน
ผู้มีหน้าที่ในการจัดทำบัญชีของบริษัท จะต้องนำทะเบียนสินทรัพย์ และหลักฐานประกอบการซื้อและการชำระเงิน เช่น ใบส่งของ/ใบกำกับสินค้า ใบขนสินค้าขาเข้า
ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น ไปยื่นต่อ BOI เพื่อพิสูจน์รายการเงินลงทุน ตามประกาศ สกท ที่ ป.1/2545 เรื่อง การกำหนดความหมายรายการเงินลงทุน
- BOI จะตรวจสอบมูลค่าเงินลงทุนเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้
- จะนับขนาดเงินลงทุนเฉพาะรายการที่มีอยู่ใช้ในโครงการที่ได้รับการส่งเสริมนั้นจริง ณ สถานประกอบการในวันตรวจสอบ และมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า
- เป็นการลงทุนเฉพาะของโครงการนี้
- จะต้องได้มา นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมจนถึงวันครบกำหนดเปิดดำเนินการ โดยพิจารณาจากวันที่นำเข้าตามใบขนฯ หรือวันที่ได้มา (วันรับมอบ)
- กรณีที่ได้มาก่อนวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม จะต้องได้รับอนุมัติให้ใช้ในโครงการ
- มีการลงทุนจริงตามรายการเงินลงทุน ตามประกาศ สกท ที่ ป. 1/2545 เท่านั้น หรือเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนด
- จะพิจารณาตามแนวทางอื่นๆ ที่ BOI ใช้ปฏิบัติ เช่น
- แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ และการตรวจสอบเงื่อนไข STI และการตรวจสอบเงื่อนไขเปิดดำเนินการ
- แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบวงเงินภาษีฯ กรณีโอน-รับโอนกิจการ
- แนวทางการนับขนาดเงินลงทุนและการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
- รายละเอียดการคำนวณขนาดเงินลงทุนเพื่อกำหนดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
การยืนยันมูลค่าเงินลงทุนเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
เมื่อตรวจความถูกต้องของรายการเงินลงทุนในคำขออนุญาตเปิดดำเนินการแล้ว กรรมการผู้มีอำนาจลงนามหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ จะต้องลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัท และเจ้าหน้าที่ BOI ผู้ตรวจสอบ จะลงนามกำกับผลการตรวจสอบ เพื่อยืนยันมูลค่าเงินลงทุนเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
เอกสารที่ใช้ในการขออนุญาตเปิดดำเนินการ
- คำขออนุญาตเปิดดำเนินการ (F PM OP 01)
- หนังสือรับรองบริษัท
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
- งบการเงิน
- ผังแสดงขั้นตอนการผลิต (Process Chart)
- ผังแสดงการติดตั้งเครื่องจักร (Machine Layout)
หน้าแรก
|
เว็บบอร์ด
|
อ่านกระทู้ถามตอบ
|