หน้าแรก
|
เว็บบอร์ด
|
อ่านกระทู้ถามตอบ
รายได้ที่ผู้ได้รับส่งเสริมสามารถใช้สิทธิประโยชน์การยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลิตผล หรือรายได้จากการให้บริการตามที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริม และมีปริมาณไม่เกินกำลังผลิตที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริม
แต่นอกเหนือจากรายได้ดังกล่าว ผู้ได้รับส่งเสริมยังอาจได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่เกิดขึ้นจากรายได้จากการจำหน่ายผลพลอยได้ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ตามที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมได้อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2530 BOI และกรมสรรพากรได้ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับรายได้ที่ไม่ใช่รายได้จากกิจการที่ได้รับส่งเสริมโดยตรง แต่ควรให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย กรมสรรพากรจึงมีประกาศ เรื่อง การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2530 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณารายได้ที่จะนำไปคำนวณกำไรสุทธิจากการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริม ประกอบด้วยรายได้ ดังนี้
- รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลิตผล หรือการให้บริการตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม ไม่เกินปริมาณการผลิตต่อปี หรือไม่เกินขนาดของกิจการที่ให้บริการตามที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริม
ในกรณีของกิจการที่มีรายได้อันเกี่ยวเนื่องตามลักษณะของกิจการที่ได้รับส่งเสริม แต่ไม่ได้ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมโดยตรง คณะกรรมการมีอำนาจพิจารณาให้ถือว่ารายได้จากการนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ซึ่งสามารถใช้สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ด้วย เช่น
- กรณีที่บริษัทรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกับที่ได้รับส่งเสริม โดยมีกระบวนการผลิตครบถ้วนตามโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม ถือว่ารายได้จากการรับจ้างดังกล่าวเป็นรายได้จากกิจการ ซึ่งสามารถใช้สิทธิการยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ด้วย แต่ทั้งนี้ ต้องมีปริมาณไม่เกินที่กำหนดไว้ในบัตรส่งเสริม
- กรณีที่ได้รับส่งเสริมกิจการเขตอุตสาหกรรม รายได้ที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่
- รายได้จากการขายหรือให้เช่า หรือให้เช่าซื้อ เฉพาะที่ดินทั้งหมดในเขตอุตสาหกรรม
- รายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ รวมทั้งการกำจัดน้ำเสีย การจำหน่ายน้ำดี และการกำจัดขยะที่ให้บริการแก่โรงงานอุตสาหกรรม
- แต่เนื่องจาก รายได้ดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมโดยชัดเจนว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้น ในการใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว ผู้ได้รับส่งเสริมอาจขอให้ BOI ออกหนังสือเพื่อรับรองว่ารายได้ดังกล่าวสามารถใช้สิทธิประโยชน์ในการยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ด้วย
- รายได้จากการจำหน่ายผลพลอยได้ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
กรณีที่ได้รับส่งเสริมในกิจการอุตสาหกรรม คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้ผู้ได้รับส่งเสริมทุกรายได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 31 วรรคสาม โดยจะให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายผลพลอยได้ ได้แก่ เศษหรือของเสียจากขบวนการผลิต โดยจะระบุข้อความดังกล่าวไว้ในบัตรส่งเสริมด้วย
แต่ในกรณีที่เป็นกิจการซึ่งที่ไม่มีขบวนการผลิต ผู้ขอรับส่งเสริมจะต้องระบุไว้ในคำขอให้ชัดเจนด้วยว่า จะเกิดผลพลอยได้ตามโครงการเกิดขึ้น โดยระบุชนิดและปริมาณให้ชัดเจน เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้ได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว
ในส่วนของสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ผู้ขอรับส่งเสริมจะต้องระบุไว้ในคำขอให้ชัดเจนเช่นเดียวกันด้วยว่า โครงการที่ขอรับส่งเสริมจะมีการจำหน่ายสินค้ากึ่งสำเร็จรูปด้วยหรือไม่ โดยมีชนิดและปริมาณอย่างไร เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้ได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายสินค้ากึ่งสำเร็จรูปนี้ด้วย
ในบางกรณี คณะกรรมการอาจพิจารณาอนุมัติให้ผู้ได้รับส่งเสริมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายผลพลอยได้และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปโดยไม่กำหนดชนิดและปริมาณ ในกรณีนี้ ผลพลอยได้และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ จะต้องเป็นชนิดและปริมาณที่เกิดขึ้นจริงจากการผลิตสินค้าตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริมเท่านั้น
และทั้งนี้ เศษและของเสียจากขบวนการผลิตที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ จะต้องเป็นเศษและของเสียที่ยังไม่ได้แปรสภาพเป็นอย่างอื่นเท่านั้น
- รายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักร
รายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ อาจอยู่ในข่ายได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามเงื่อนไขดังนี้
- เป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม ซึ่งหมดสภาพหรือไม่เหมาะสมที่จะใช้งานต่อไป
- ต้องไม่เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ หรือเครื่องตกแต่งในสำนักงานของผู้ได้รับส่งเสริม
- ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ
- กรณีที่มีการนำเครื่องจักร หรือ เครื่องมือ เครื่องใช้เหล่านั้น ไปใช้ในกิจการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย ให้เฉลี่ยรายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักร ฯลฯ นั้น เพื่อคำนวณรายได้ที่พึงจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
- รายได้จากดอกเบี้ย หรือรายได้อื่นที่เกิดจากการอันเป็นปกติธุระในการประกอบกิจการ
รายได้อื่นที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการและกรมสรรพากร ประกอบด้วย
- กรณีดอกเบี้ยเงินฝากที่จะถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
จะต้องเป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากการนำเงินทุนหมุนเวียนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนไปฝากธนาคารหรือสถาบันการเงิน และเฉพาะการฝากเงินประเภทออมทรัพย์ที่ไม่ใช้เช็คในการถอน โดยคำนวณดอกเบี้ยรวมกันไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ทั้งสิ้นของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
สำหรับเงินทุนหมุนเวียนดังกล่าวไม่รวมถึงเงินกู้ยืมที่นำมาใช้ในกิจการตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
- รายได้จากกำไรจากการปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผู้ได้รับส่งเสริมเริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม โดยประกอบด้วยรายได้จากการปริวรรตเงินตรา ดังนี้
- ก. กำไรจากการปริวรรตเงินตราที่เกิดจากการที่ผู้ได้รับการส่งเสริมนำเงินกู้ยืมซึ่งเป็นเงินตราต่างประเทศเข้ามาใช้ในกิจการตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริม
- ข. กำไรจากการปริวรรตเงินตราที่เกิดจากการนำรายได้จากกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ไปชำระหนี้เงินกู้ที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับการส่งเสริม
- ค. กำไรจากการปริวรรตเงินตราที่เกิดจากการนำเงนิกู้ยืมเงินตราต่างประเทศเข้ามาใช้ในกิจการตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริม เฉพาะส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ไม่ถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริม และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ได้ชัดแจ้งว่า เงินกู้ยืมส่วนที่ยังคงเหลืออยู่นั้น มีข้อผูกพันที่จะต้องนำไปใช้ในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมอย่างแท้จริง
- ง. กำไรจากการปริวรรตเงินตราที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นรายได้ของกิจการที่ได้รับการส่งเสริม หรือของกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริม ให้เฉลี่ยรายได้นั้นตามส่วนของรายได้ของแต่ละกิจการ
- รายได้จากเงินชดเชยภาษีอากร
รายได้จากเงินชดเชยภาษีอากรที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ต้องเป็นรายได้จากการรับเงินชดเชยตามพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524 ตามจำนวนที่ปรากฎในบัตรชดเชยภาษีอากรที่ผู้ได้รับส่งเสริมได้รับจริง
กรณีที่ผู้ได้รับส่งเสริมได้รับเงินชดเชยค่าดอกเบี้ยที่บริษัทผู้ร่วมลงทุนจากต่างประเทศไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมเพื่อใช้ในกิจการได้ตามสัญญา หรือได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยที่จ่ายค่าชดเชยในกรณีทรัพย์สินของกิจการที่เอาประกันภัยเสียหาย ไม่ถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริม และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
โปรดทราบ! การจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ กรุณาตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
|
หน้าแรก
|
เว็บบอร์ด
|
อ่านกระทู้ถามตอบ
|