ความรู้เกี่ยวกับงาน BOI
   - ภาพรวมการให้การส่งเสริม
 - พรบ.ส่งเสริมการลงทุน
 - นโยบายส่งเสริมการลงทุน
 - หลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์
 - กิจการที่ให้ส่งเสริมการลงทุน
   - ภาพรวม
 - หลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ
 - การกรอกคำขอรับการส่งเสริม
 - การรวมบัตรส่งเสริม
 - การโอน / รับโอนกิจการ
 - การควบรวมกิจการ
 - การโยกย้ายสถานประกอบการ
 - การส่งเสริมกิจการที่ประกอบการอยู่เดิม
   - มาตรการ STI
 - มาตรการสนับสนุนกิจการ SMEs
   - กิจการ IPO
 - กิจการ ROH
 - กิจการ TISO
 - กิจการซอฟต์แวร์
   - ภาพรวม
 - สิทธิประโยชน์มาตรา 28 และ 29
 - ระยะเวลานำเข้าและการขยายเวลา
 - บัญชีเครื่องจักร (Master List)
 - การใช้เครื่องจักรเก่า
 - การสั่งปล่อยเครื่องจักร
 - การใช้ธนาคารค้ำประกัน
 - การส่งออกไปซ่อม หรือส่งคืน
 - การตัดบัญชีเครื่องจักร
 - การขออนุญาตอื่น ๆ
   - ภาพรวม
 - สิทธิประโยชน์มาตรา 30
 - ระยะเวลานำเข้าและการขยายเวลา
 - บัญชีวัตถุดิบและปริมาณสต๊อคสูงสุด
 - สูตรการผลิต
 - การสั่งปล่อยวัตถุดิบ
 - การใช้ธนาคารค้ำประกันภาษีอากร
 - การตัดบัญชีวัตถุดิบ
   - ภาพรวม
 - สิทธิประโยชน์มาตรา 36
 - ระยะเวลานำเข้าและการขยายเวลา
 - บัญชีวัตถุดิบและปริมาณสต๊อคสูงสุด
 - สูตรการผลิต
 - ส่วนสูญเสียและเศษซาก
 - การสั่งปล่อยวัตถุดิบ
 - การใช้ธนาคารค้ำประกันภาษีอากร
 - การตัดบัญชีวัตถุดิบ
 - การส่งคืนวัตถุดิบไปต่างประเทศ
 - การชำระภาษีอากรวัตถุดิบ
 - การนำผลิตภัณฑ์กลับเข้ามาซ่อม
 - การโอน-รับโอนวัตถุดิบ
   - ภาพรวม
 - สิทธิประโยชน์มาตรา 31, 34, 35
 - วันที่เริ่มมีรายได้ครั้งแรก
 - ระยะเวลาการยกเว้นภาษี
 - รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี
 - วงเงินยกเว้นภาษีเงินได้
 - การคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิ
 - ขั้นตอนการขอใช้สิทธิยกเว้นภาษี
   - ภาพรวม
 - สิทธประโยชน์มาตรา 24, 25, 26
 - ระบบ e-Expert
 - การอนุมัติตำแหน่ง
 - การบรรจุช่างฝีมือ
 - การขอใบอนุญาตทำงานและต่อวีซ่า
 - การนำช่างฝีมือมาปฏิบัติงานขั่วคราว
 - ข้อควรรู้
 - กฏหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
 - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 - อื่น ๆ
   - ภาพรวม
 - สิทธิประโยชน์ มาตรา 27
 - ขั้นตอนการใช้สิทธิ
   - ภาพรวม
 - กำหนดระยะเวลาการเปิดดำเนินการ
 - การเปิดดำเนินการ
   - ภาพรวม
 - แก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์
 - แก้ไขกำลังผลิต
 - แก้ไขกรรมวิธีการผลิต
 - แก้ไขสภาพเครื่องจักร
 - แก้ไขที่ตั้งโรงงาน
 - แก้ไขทุนจดทะเบียน
   - ภาพรวม
 - การตอบรับมติ
 - การออกบัตรส่งเสริม
   - การยืนยันการดำเนินการตามโครงการ
 - การปฏิบัติตามเงื่อนไข ISO
 - รายงานผลการดำเนินงาน (ตส.310)
 - การหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว
 - การยกเลิกบัตรส่งเสริม

 ความรู้เกี่ยวกับงาน IC
   - การสมัครสมาชิก
 - การสมัครใช้บริการสิทธิประโยชน์
 - การฝึกอบรม
   - ภาพรวม
   - บัญชีวัตถุดิบและสต๊อคสูงสุด (MML)
 - บัญชีชื่อรอง (DESC)
 - บัญชีสูตรการผลิต (FRM)
 - การกำหนดวันนำเข้าครั้งแรก
 - การสั่งปล่อยวัตถุดิบ
 - การตัดบัญชีวัตถุดิบ
 - การปรับยอดวัตถุดิบ
   - งานเครื่องจักร
 - งานสั่งปล่อยวัตถุดิบ
 - งานตัดบัญชีวัตถุดิบ
 - งานฐานข้อมูลวัตถุดิบ
 - งานบริการฝึกอบรมและสัมมนา
 - ลงทะเบียนระบบฝึกอบรมออนไลน์
 - งานบัญชีและการเงิน

 Webboard
   - เว็บบอร์ดถามตอบคำถาม
 - เครื่องจักร
 - วัตถุดิบ
 - ช่างฝีมือ
 - ภาษีเงินได้นิติบุคคล
 - การเปิดดำเนินการ
 - ลงทะเบียนเว็บบอร์ด










 
การขอรับการส่งเสริม : ภาพรวม

หน้าแรก | เว็บบอร์ด | อ่านกระทู้ถามตอบ

ปรับปรุงล่าสุด : 5 มกราคม 2566

      ผู้ที่จะได้รับการส่งเสริม จะต้องเป็นบริษัท สหกรณ์ หรือมูลนิธิที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น

      แต่หากยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะยื่นคำขอรับการส่งเสริมในนามบุคคลก่อน แล้วจึงจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในภายหลังก่อนที่จะขอรับบัตรส่งเสริมก็ได้

      การขอรับการส่งเสริมการลงทุน ประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้

1.การยื่นคำขอรับการส่งเสริม
2.การชี้แจงโครงการ
3.การตอบรับมติการให้ส่งเสริม
4.การขอรับบัตรส่งเสริม

การยื่นคำขอรับการส่งเสริม

      การขอรับการส่งเสริม สามารถยื่นทางออนไลน์ ผ่าน ระบบสนับสนุนงานส่งเสริมการลงทุน (e-Investment Promotion) ของ BOI สำหรับคำขอ 4 ประเภท คือ

  1. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั่วไป (F PA PP 01-08)
  2. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บริการ) (F PA PP 03-09)
  3. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการด้านดิจิทัล (F PA PP 04-09)
  4. คำขอรับการส่งเสริมตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) (F PA PP 29-05)

      ส่วนคำขอรับการส่งเสริมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ จะต้องยื่นเป็นเอกสาร ต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

      แบบฟอร์มคำขอรับการส่งเสริม เอกสารประกอบคำขอ และเอกสารแนบต่างๆ

      คำขอรับการส่งเสริม มีทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยการกรอกข้อมูลในคำขอรับการส่งเสริม จะกรอกเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้

      กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริมมีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ จะยื่นคำขอรับการส่งเสริมผ่านสำนักงาน BOI ในต่างจังหวัดหรือในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการส่งเสริมลงทุนในพื้นที่นั้นๆ ก็ได้

      กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริม ต้องการปรึกษาวิธีการกรอกคำขอรับการส่งเสริม สามารถติดต่อขอปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการเพื่อการลงทุน โทร 02-553-8111 ได้

      ทั้งนี้ การปรึกษาวิธีการกรอกคำขอ กับ BOI ตลอดจนการยื่นคำขอรับการส่งเสริมนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น

ข้อควรทราบในการกรอกคำขอ

      ในการกรอกคำขอรับการส่งเสริม ผู้ขอควรทราบความหมายในการกรอกข้อมูลในส่วนที่สำคัญ ดังนี้

1. ชนิดผลิตภัณฑ์ / กำลังผลิต / เวลาทำงาน

ตัวอย่างที่ 1
ผลิตภัณฑ์กำลังผลิต (ต่อปี)เวลาทำงาน
หม้อหุงข้าว1,000,000 เครื่อง8 ชม./วัน 300 วัน/ปี

ชนิดผลิตภัณฑ์ : หมายถึง รายการสินค้าที่ผู้ได้รับส่งเสริมสามารถจำหน่ายได้โดยได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ เป็นต้น

โครงการตามตัวอย่างที่ 1 จะได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะหม้อหุงข้าวเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายหม้อนึ่ง หม้ออบ หรือหม้อไฟฟ้าชนิดอื่น ตลอดจนไม่สามารถจำหน่ายชิ้นส่วนของหม้อหุงข้าวได้

กำลังผลิต : หมายถึง กำลังผลิตสูงสุดของโครงการที่จะสามารถใช้สิทธิการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และคำนวณปริมาณอนุมัติสูงสุดของวัตถุดิบ (Max Stock) โดยกำลังผลิตนี้จะคำนวณจากกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร ไม่ใช่แผนการตลาดหรือปริมาณที่คาดว่าจะผลิต

โครงการตามตัวอย่างที่ 1 จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายหม้อหุงข้าวปีละไม่เกิน 1,000,000 เครื่องเท่านั้น ส่วนที่เกินกว่านี้จะต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล และจะได้รับอนุมัติ Max Stock ของวัตถุดิบ สำหรับการผลิต 4 เดือน คือ 333,333 เครื่อง

เวลาทำงาน : หมายถึง เวลาทำงานของเครื่องจักรที่จะใช้เป็นฐานในการคำนวณกำลังผลิตสูงสุดของโครงการ

      กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริมต้องการผลิตหม้อไฟฟ้าต่างๆ และจะจำหน่ายชิ้นส่วนด้วย ควรกรอกคำขอรับการส่งเสริมตามตัวอย่างที่ 2 โดยระบุกำลังผลิตตามกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร ดังนี้

ตัวอย่างที่ 2
ผลิตภัณฑ์กำลังผลิต (ต่อปี)เวลาทำงาน
หม้อไฟฟ้า1,500,000 เครื่อง8 ชม./วัน 300 วัน/ปี
ชิ้นส่วนหม้อไฟฟ้า4,000,000 ชิ้น

2. กรรมวิธีการผลิต

ตัวอย่างที่ 3
กรรมวิธีการผลิตหม้อไฟฟ้า
-นำแผ่นเหล็กมาปั๊มขึ้นรูปเป็นหม้อชั้นในและชั้นนอก
-ประกอบชิ้นส่วนทางไฟฟ้า เช่น สวิตซ์ตัดต่อ และฟิวส์ เป็นต้น
-ประกอบชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
-ตรวจสอบ ปรับแต่ง บรรจุหีบห่อ จำหน่าย

กรรมวิธีการผลิต : เป็นขั้นตอนในการผลิตสินค้าที่ผู้ได้รับส่งเสริมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน ไม่สามารถผลิตสินค้าโดยมีขั้นตอนมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ยื่นขอรับส่งเสริมนี้

นอกจากนี้ ในการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักรและวัตถุดิบเพื่อยกเว้นอากรขาเข้า จะพิจารณาอนุมัติรายการเครื่องจักรและวัตถุดิบซึ่งสอดคล้องกับกรรมวิธีการผลิตนี้เท่านั้น

โครงการที่มีขั้นตอนการผลิตตามตัวอย่างที่ 3 จะต้องผลิตหม้อชั้นในและชั้นนอกขึ้นเองภายในโรงงาน ไม่สามารถซื้อหม้อชั้นในหรือชั้นนอกที่ปั๊มขึ้นรูปแล้วมาใช้ในการผลิตได้

กรณีที่ผู้ขอรับส่งเสริมประสงค์จะทำการว่าจ้างผลิต หรือต้องการผลิตชิ้นส่วนบางส่วนขึ้นเองและนำเข้าบางส่วน จะต้องระบุในกรรมวิธีการผลิตให้ชัดเจน ตามตัวอย่างที่ 4 ดังนี้

ตัวอย่างที่ 4
กรรมวิธีการผลิตหม้อไฟฟ้า
-นำแผ่นเหล็กไปว่าจ้างผู้ประกอบการในประเทศให้ตัดตามขนาดที่ต้องการ
-ปั๊มขึ้นรูปเป็นหม้อชั้นในและชั้นนอก โดยอาจนำเข้าหม้อชั้นในบางส่วนจากต่างประเทศมาใช้ในการผลิต
-ประกอบชิ้นส่วนทางไฟฟ้า เช่น สวิตซ์ตัดต่อ และฟิวส์ เป็นต้น
-นำแม่พิมพ์ไปว่าจ้างผู้ประกอบการในประเทศให้ฉีดขึ้นรูปชิ้นส่วนพลาสติกบางรายการ
-ประกอบชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
-ตรวจสอบ ปรับแต่ง บรรจุหีบห่อ จำหน่าย

การชี้แจงโครงการ

      หลังจากยื่นคำขอรับการส่งเสริมแล้ว ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำกองบริหารสิทธิและประโยชน์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคำขอนั้นๆ เพื่อนัดหมายกำหนดวันชี้แจงโครงการ

      จากนั้น ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ (หรือผ่านระบบออนไลน์) เพื่อชี้แจงรายละเอียดของโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน หรืออาจมอบหมายให้ผู้อื่นไปชี้แจงโครงการแทนก็ได้

      ในการชี้แจงโครงการ ผู้ขอรับการส่งเสริมควรนำบุคคลที่มีความเข้าใจรายละเอียดของโครงการที่ขอรับการส่งเสริม ทั้งในด้านการผลิต การเงิน และการตลาด ร่วมเดินทางไปชี้แจงโครงการด้วย เนื่องจากจะทำให้การชี้แจงโครงการมีความถูกต้องชัดเจน และจะทำให้การพิจารณาคำขอรับการส่งเสริมเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

      กรณีที่ข้อมูลในคำขอรับการส่งเสริมไม่ชัดเจนหรือไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่อาจขอให้บริษัทแก้ไขคำขอรับการส่งเสริม หรืออาจให้จัดทำเอกสารชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป

การอนุมัติโครงการ

      หลังจากการชี้แจงโครงการสิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่จะสรุปรายงานการขอรับส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว และนำเสนอต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามขนาดการลงทุนของโครงการนั้นๆ โดยมีกำหนดเสร็จ 15-90 วันทำการ ดังนี้

ขนาดการลงทุน
(ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)
ผู้พิจารณากำหนดเสร็จ
เกินกว่า 2,000 ล้านบาท
และจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
คณะกรรมการ90 วันทำการ
เกินกว่า 2,000 ล้านบาท
และส่งออกเป็นส่วนใหญ่
คณะอนุกรรมการ60 วันทำการ
200-2,000 ล้านบาท
80- 200 ล้านบาทสำนักงาน
60 วันทำการ
ไม่เกิน 80 ล้านบาทสำนักงาน
40 วันทำการ
ไม่เกิน 40 ล้านบาทสำนักงาน15 วันทำการ
กิจการซอฟต์แวร์ทุกขนาดการลงทุน
กิจการกลุ่ม B ในทุกขนาดการลงทุน ยกเว้นกรณีที่มีการนำระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์มาใช้ในโครงการสำนักงาน40-60 วันทำการ
กิจการสถานพยาบาล กิจการโรงแรม และกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในทุกขนาดการลงทุน
โครงการที่ดำเนินการอยู่เดิมในทุกขนาดการลงทุน ซึ่งเป็นโครงการที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ และ/หรือ มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart และ Sustainability ด้านการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เฉพาะกรณีการใช้พลังงานทดแทนโดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และด้านการยกระดับไปสู่มาตรฐานเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล

บริการที่ปรึกษา และขอรับการส่งเสริมการลงทุน BOI
FAQ108 ให้บริการที่ปรึกษา และยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนต่อ BOI
กรุณาติดต่อ consult@faq108.co.th

หน้าแรก | เว็บบอร์ด | อ่านกระทู้ถามตอบ


views 22,370
Total pageviews 4,415,094 since Jan 2014

FAQ 108 คำถามกับงานส่งเสริมการลงทุน
เว็บไซต์ | เฟสบุ๊ค | เว็บบอร์ด | ติดต่อเรา
Copyright © FAQ 108 COMPANY LIMITED. All rights reserved.