หน้าแรก | เว็บบอร์ด | อ่านกระทู้ถามตอบ การขอเป็นช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการ ในกิจการบีโอไอ
ที่มา : วารสารส่งเสริมการลงทุน เดือนมิถุนายน 2556 การทำงานของแรงงานต่างชาติสามารถเข้ามาปฏิบัติทำงานได้ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปิโตรเลียม กฎหมายการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กฎหมายส่งเสริมการลงทุน กฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือ กฎหมายเฉพาะอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าจะเข้ามาตามกฎหมายฉบับใด ก็ต้องมาขออนุญาตกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการ จัดหางาน กระทรวงแรงงาน สำหรับแรงงาน ต่างชาติที่ประสงค์จะทำงานในกิจการที่ได้รับ ส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริม การลงทุน พ.ศ. 2520 บีโอไอ และประสงค์จะใช้ สิทธิ์ด้านช่างฝีมือจากบีโอไอ กิจการบีโอไอต้อง ยื่นคำร้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์งานช่างฝีมือ (e - Expert System) เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จะได้ รับหนังสือ 3 ฉบับ ประกอบด้วย หนังสือถึง กรรมการผู้จัดการของกิจการ หนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหนังสือถึงกรมการจัดหางาน เพื่อไปยื่นคำร้อง ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการจัดหางานต่อไป บทความนี้จะได้นำเสนอนิยามของคนต่างด้าว และหลักเกณฑ์ ในการพิจารณาอนุญาตให้ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการในกิจการบีโอไอ (หมายถึง กิจการที่ได้รับบัตรส่งเสริมแล้ว) เข้ามาปฏิบัติงานใน ราชอาณาจักรในขั้นตอนของบีโอไอ โดยมีองค์ประกอบหลักในการ พิจารณาอะไรบ้าง นิยามของคนต่างด้าว เรียกว่า ต่างชาติ แต่ภาษากฎหมายใช้คำว่า “คนต่างด้าว” ซึ่งมีความหมายปรากฏตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบ ธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ว่า “คนต่างด้าว” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือ นิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียน ในประเทศไทย แต่มีหุ้นทุน หรือมูลค่าหุ้นตั้งแต่ครึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมด ถือโดยคนต่างชาติ หรือนิติบุคคลต่างประเทศ รวมถึงห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนในประเทศไทย แต่มีหุ้นส่วน ผู้จัดการ หรือผู้จัดการเป็นคนต่างชาติ นิยามคนต่างด้าวยังรวมถึงนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย แล้วมีหุ้นทุน หรือมูลค่าหุ้นตั้งแต่ครึ่งหนึ่งของทุนทั้งหมด ถือโดย คนต่างชาติ นิติบุคคลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลจดทะเบียนใน ประเทศไทยที่กล่าวมาข้างต้น หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการ เข้ามาพำนัก และปฏิบัติงานในราชอาณาจักร
การอนุญาตให้ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการเข้ามาพำนัก และปฏิบัติงาน ในราชอาณาจักร มีหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาที่ใช้อำนาจตาม มาตรา 25 และ 26 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ประกอบด้วย
กิจการหมวด 7 (กิจการบริการและสาธารณูปโภค)
กรณีอนุมัติตำแหน่งหน้าที่ของคนต่างด้าวเพิ่มเติม หรือกรณี ขยายเวลาตำแหน่งหรือต่ออายุการอยู่ในประเทศของคนต่างด้าว และครอบครัว ยกเว้นกิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน พิจารณาจากเหตุผลที่บริษัทชี้แจง เช่น
กรณีขยายระยะเวลาตำแหน่ง กรณีที่กิจการมีความประสงค์จะขยายระยะเวลา การอยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว บริษัทจะต้องยื่นเรื่องต่อบีโอไอ ตามแบบที่กำหนดก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลาอนุญาตเดิม โดยจะต้องมีวันเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 10 วันทำการ หากเกินกำหนดจะต้องยื่นเรื่องขอบรรจุตัวใหม่กับบีโอไอ โดยต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปขอวีซ่า Non - B เข้ามาใหม่ กรณีบรรจุคนต่างด้าวในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติ (บรรจุใหม่/แทนคนเดิม)
กรณีอนุญาตให้คนต่างด้าวมาปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว
กรณีอนุญาตให้ครอบครัวของคนต่างด้าวเข้ามาในประเทศ
กรณีขอความร่วมมือในการประทับตราวีซ่าให้แก่คนต่างด้าวหรือครอบครัว
จะพิจารณาตามลักษณะงาน และความจำเป็นของกิจการ
กรณีแจ้งเปลี่ยนสัญชาติคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอให้บริษัทแจ้งช่างพ้นหน้าที่และยื่นบรรจุตัวใหม่ เนื่องจากถือหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และถือสัญชาติใหม่ กรณีอนุญาตให้คนต่างด้าวไปปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทในเครือเดียวกัน
“บริษัทในเครือ” หมายความว่า บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไป ซึ่งมีความสัมพันธ์กันในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังต่อไปนี้
กรณีไปปฏิบัติงานในกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ในหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะระบุในหมายเหตุด้วยว่า “โดยเป็นกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนตามมาตรา 24” กรณีอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในพื้นที่เพิ่มเติม หรือย้ายท้องที่ทำงาน ในการพิจารณาท้องที่ที่ทำงานที่เพิ่ม หรือย้าย จะต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในที่ตั้งโรงงานในบัตรส่งเสริม หรือที่ตั้งสำนักงานที่ระบุในหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท กรณีอนุญาตให้คนต่างด้าว และครอบครัวนำของใช้ส่วนตัวเข้ามาในราชอาณาจักร ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการ และครอบครัวจะต้องมีระยะเวลาที่อนุญาต ให้อยู่ในประเทศเกินกว่า 1 ปี กรณีคนต่างด้าวพ้นหน้าที่ กิจการจะต้องยื่นคำร้องแจ้งให้บีโอไอทราบก่อนล่วงหน้า 15 วัน กรณีอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานชั่วคราวเป็นการเร่งด่วนไม่เกิน 30 วัน
กรณีที่มีปัญหาไม่อาจวินิจฉัยได้ตามหลักเกณฑ์นี้ ให้เสนอผู้บริหารวินิจฉัย เฉพาะกิจการบีโอไอเท่านั้น ที่สามารถใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์งานช่างฝีมือ (e - Expert System) ได้ อย่างไรก็ตาม กิจการบีโอไอจะไม่ใช้สิทธิ์ช่างฝีมือนี้ก็ได้เช่นกัน แต่สามารถไปขอใช้สิทธิ์ต่อวีซ่า และใบอนุญาตทำงานในฐานะธุรกิจทั่วไป ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยหากจะใช้สิทธิ์ช่างฝีมือของบีโอไอ ก็จำเป็นต้องเข้าหลักเกณฑ์ข้างต้น จึงจะได้รับอนุมัติ จากนั้นสามารถไปติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการจัดหางาน ต่อไป
ตำแหน่งของช่างฝีมือต่างชาติภายใต้โครงการบีโอไอ
ที่มา : วารสารส่งเสริมการลงทุน เดือนตุลาคม 2554 บีโอไอ ให้การส่งเสริมการลงทุน ด้วยสิทธิประโยชน์ในรูปของภาษีอากร และที่ไม่ใช่ภาษีอากร โดยสิทธิประโยชน์ด้านช่างฝีมือเป็นสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีอากร มีบทบาทสำคัญในการให้บริการของบีโอไอ งานช่างฝีมืออยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ ศูนย์บริการลงทุน บีโอไอ ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 18 ปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งมีระเบียบหลักเกณฑ์ในการนำเข้าคนต่างด้าวมาปฏิบัติงานในตำแหน่งงานของกิจการบีโอไอ ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ คุณสมบัติของช่างฝีมือต่างชาติ การนำเข้าช่างฝีมือต่างชาติภายใต้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอ เริ่มจากการมีบัตรส่งเสริมฯ เพื่อใช้สิทธิ์ตามมาตรา 25 และ 26 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 เพื่อการอยู่ และทำงานในราชอาณาจักร หากอยู่ในระหว่างขอรับการส่งเสริมฯ จะใช้สิทธิ์ตามมาตรา 24 โดยการใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือ ตามมาตรา 25 กำหนดคำเฉพาะไว้ว่า ช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการ จึงจำเพาะช่างฝีมือ หรือผู้ชำนาญการเท่านั้น ที่จะสามารถใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอได้ อย่างไรก็ตาม ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติในกิจการบีโอไอ อาจใช้สิทธิประโยชน์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอ หรือไม่ก็ได้ กล่าวคือ มีสิทธิ์ แต่ไม่ใช้สิทธิ์ก็ได้ โดยหากไม่ใช้สิทธิ์ช่างฝีมือของบีโอไอ สามารถยื่นกรณีธุรกิจทั่วไปที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้โดยตรง ฉะนั้น คนต่างด้าวในกิจการบีโอไอ ไม่จำเป็นต้องอยู่ปฏิบัติงานในราชอาณาจักรภายใต้สิทธิประโยชน์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอเสมอไป ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ทำงานในกิจการบีโอไอ ที่สามารถใช้สิทธิ์บีโอไอได้ ต้องมีคุณสมบัติด้านอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ในข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติตั้งแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไป ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 2. ไม่ว่าจะมีวุฒิการศึกษาตรงกับตำแหน่งงานหรือไม่ก็ตาม กล่าวคือ ประสบการณ์ทำงานในด้านที่ส่งเสริม และสนับสนุนการมาปฏิบัติงานในกิจการบีโอไอไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีอายุไม่น้อยกว่า 27 ปี ประสบการณ์ทำงานต้องเกี่ยวพันกับตำแหน่งหน้าที่ที่ขออนุมัติ จึงจะสามารถนับเป็นประสบการณ์ทำงานได้ อีกทั้งชื่อตำแหน่งต้องมีความชัดเจน และสะท้อนงานที่ทำ เช่น Marketing Manager จะมาปฏิบัติงานด้านการตลาด เป็นต้น นอกจากนั้น กรณีชื่อตำแหน่งที่เจาะจง ยังบอกถึงวุฒิการศึกษาด้วย เช่น Technical Engineering Development Supervisor ต้องจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น เป็นต้น ขั้นตอนการนำเข้าช่างฝีมือต่างชาติ เมื่อช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว หากกิจการประสงค์จะใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือนำเข้าช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติ มาปฏิบัติงานในโครงการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน ให้ดำเนินการเป็น 2 ขั้นตอน คือ
ตำแหน่งหน้าที่ของช่างฝีมือต่างชาติ ตำแหน่งที่จะขออนุมัติสำหรับช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติ ต้องมีความชัดเจน โดยชื่อตำแหน่งต้องบอกลักษณะงาน และระดับการบังคับบัญชาในองค์กรนั้นได้ เช่น Managing Director, Marketing Manager, Quality Control Supervisor เป็นต้น ซึ่งหากเป็นตำแหน่ง Managing Director ช่างฝีมือต้องเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนของบริษัทนั้น กรณีเป็นตำแหน่งด้านตลาด การส่งออก และการขายต้องให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องของสัดส่วนการค้าภายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ โดยส่งออกไปยังประเทศใดบ้าง กรณีเป็นตำแหน่งด้านตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพในสายการผลิต ต้องให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องของชนิดผลิตภัณฑ์ และสายการผลิตประกอบการพิจารณาด้วย อีกทั้งช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาตินั้น จะมาควบคุม ดูแล และปฏิบัติงานในสายการผลิตใด เหตุผลและความจำเป็นในการขออนุมัติตำแหน่งหน้าที่ ตำแหน่งหน้าที่ของช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ขออนุมัติต้องมีเหตุผล และความจำเป็นในการจ้างช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาตินั้น เช่น ขอบเขตงานในตำแหน่งนี้ ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของใคร ทำไมตำแหน่งหน้าที่นี้จึงจำเป็นต่อองค์กรในช่วงเวลาที่ยื่นคำขอ ด้วยเหตุผลอะไรจึงต้องมีตำแหน่งนี้ และเหตุใดต้องเป็นคนต่างชาติ เป็นต้น เหตุผล และความจำเป็นในการขออนุมัติตำแหน่งหน้าที่นั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาของกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศว่าจะอนุมัติให้หรือไม่ กรณีมีตำแหน่งหน้าที่ของช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ใช้สิทธิ์บีโอไออยู่แล้ว แต่จะขอเพิ่มอัตรา คือ เพิ่มจำนวนช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติในตำแหน่งหน้าที่เดิม ให้แจ้งเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเพิ่มอัตรา นอกจากนั้น ลักษณะงานของอัตราเดิมและอัตราใหม่ เหมือน/แตกต่างกันอย่างไร การบรรจุช่างฝีมือต่างชาติ ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa ชนิด B หรือ IB (Non-B สำหรับธุรกิจ หรือ Non-IB สำหรับการลงทุนภายใต้กฎหมายว่าด้วยการลงทุน) และเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว จึงยื่นเรื่องบรรจุช่างฝีมือในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติแล้วนั้น พร้อมกับเอกสารด้านการศึกษา และเอกสารประสบการณ์ทำงาน ซึ่งหากไม่ใช่ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ต้องแปลเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ โดยให้ศูนย์การแปลหรือสถานทูตตามสัญชาติของช่างฝีมือรับรอง และประทับตราสำคัญ ทั้งนี้ สถาบันที่แปลต้องเป็นองค์กร มิใช่บุคคล ระยะเวลาให้อยู่และทำงานในประเทศไทย ระยะเวลาที่ให้อยู่ และทำงานในราชอาณาจักรแต่ละครั้งที่ขออนุมัติ ขึ้นอยู่กับการได้รับการส่งเสริมฯ ในกิจการประเภทใด จำแนกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม 1 ปี และกลุ่ม 2 ปี โดยกลุ่ม 1 ปี สำหรับกิจการซอฟต์แวร์ และกิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน กิจการนอกนั้น (มากกว่า 200 ประเภทที่ให้การส่งเสริมฯ) เป็นกลุ่ม 2 ปี กรณีเป็นกิจการวิจัยและพัฒนา จะให้ 4 ปี สำหรับช่างฝีมือในตำแหน่ง Researcher และหากต่ออายุในรอบที่ 2 เป็นต้นไป จะได้รับ 2 ปี ระยะเวลาดำเนินการ ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติตำแหน่งหน้าที่ขึ้นอยู่กับจำนวนตำแหน่งที่ขออนุมัติ จำแนกเป็น ดังนี้
ระยะเวลาดำเนินการบรรจุช่างฝีมือลงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับอนุมัติ จำนวน 5 วันทำการ หนังสือมอบอำนาจ การยื่นเรื่องขออนุญาตทุกเรื่องต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ไม่ได้มาติดต่อด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจมาด้วยเสมอ โดยประกอบด้วยหนังสือมอบอำนาจ หนังสือรับรองของบริษัท สำเนาบัตรประจำตัวของผู้มอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ อากรแสตมป์ 10 หรือ 30 บาทแล้วแต่กรณี (10 บาท ใช้ได้ครั้งเดียว แต่ 30 บาท จะเป็นมอบอำนาจ เพื่อให้ใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะมีการขอยกเลิก) ซึ่งต้องยื่นหนังสือมอบอำนาจต้นฉบับทั้งชุด ในการติดต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศครั้งแรกเสมอ กรณีเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท มาติดต่อด้วยตนเอง และเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ แต่ถ้าเป็นคนไทย ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อำนาจที่ปรากฏในหนังสือมอบอำนาจ ควรครอบคลุมการยื่นคำขอ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รับรอง และลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว รวมถึงทำการแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูล ชี้แจง ให้ถ้อยคำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ บีโอไอ หนังสือมอบอำนาจ และหนังสือรับรองของบริษัทมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่ลงในหนังสือนั้น แต่อาจน้อยกว่า 6 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขอำนาจ หรือรายละเอียดในหนังสือนั้น การรับรองเอกสาร เอกสารทุกชุด ยกเว้นเอกสารที่ออกโดยบีโอไอ ต้องได้รับการลงนาม และประทับตราสำคัญของบริษัท โดยกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจนั้น โดยกรณีเอกสารสำคัญในการบรรจุช่างฝีมือลงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับอนุมัติ ได้แก่
ด้วยระเบียบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศข้างต้น ทำให้ช่างฝีมือต่างชาติที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน ไม่สามารถใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอได้ อีกทั้งต้องมีวีซ่า Non-B หรือ Non-IB จึงจะสามารถทำงานได้ ด้วยระยะเวลาดำเนินการทั้ง 2 ขั้นตอน กรณี 1–2 ตำแหน่ง แล้วเสร็จได้ไม่เกิน 10 วันทำการ โดยโอกาสในการได้รับอนุมัติจะมีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องมีการจ้างงานช่างฝีมือต่างชาตินั้น หากข้อมูลประกอบการพิจารณาครบถ้วน การพิจารณาก็สามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้น กลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ บีโอไอจะเริ่มทดลองใช้ระบบออนไลน์ BOI E-Expert System ประมาณเดือนตุลาคม 2554 และเริ่มใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ในการยื่นเรื่องช่างฝีมือทั้งระบบ ในทุกประเภทกิจการ และทุกชนิดงานช่างฝีมือที่ให้บริการของบีโอไอ เมื่อเริ่มใช้งานจริง หนังสือมอบอำนาจก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป บริษัทผู้ได้รับส่งเสริมฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบรหัส Password และเอกสารที่แนบทั้งหมดของตนเอง ซึ่งจะลดขั้นตอน ลดปริมาณเอกสาร และลดการเดินทางมาติดต่อยื่นเรื่อง อันจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อช่างฝีมือต่างชาติในกิจการบีโอไอต้องไปปฏิบัติงานยังสถานที่อื่น
ที่มา : วารสารส่งเสริมการลงทุน เดือนกันยายน 2554 ประเภทของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงานในกิจการบีโอไอ (กิจการบีโอไอ หรือผู้ที่ได้รับการส่งเสริม ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 หมายถึง กิจการที่ได้รับบัตรส่งเสริมฯ) ด้วยสิทธิ์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอ อาจมีความจำเป็นต้องไปปฏิบัติงานยังสถานที่อื่น ด้วยเหตุผลหลากหลาย ซึ่งจำแนกออกเป็น 3 ประเภท คือ
คนต่างด้าวเป็นคำทางกฎหมาย หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการ เป็นคำที่อยู่ในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ที่ให้ผู้ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนได้รับอนุญาตนำคนต่างด้าวซึ่งเป็นช่างฝีมือ หรือผู้ชำนาญการเข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามจำนวน และกำหนดระยะเวลาให้อยู่ในราชอาณาจักรเท่าที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาเห็นสมควร กรณีเพิ่ม หรือย้ายท้องที่ทำงาน เป็นกรณีที่กิจการบีโอไอเดียวกัน มีที่ตั้งหลายท้องที่ ซึ่งหมายถึง หลายจังหวัด แล้วประสงค์จะไปปฏิบัติงานในหลายท้องที่นั้นหรือย้ายไปปฏิบัติงานยังท้องที่อื่นของกิจการ การพิจารณาท้องที่ทำงานที่เพิ่ม หรือย้าย ต้องเป็นไปตามที่ระบุที่ตั้งโรงงานไว้ในบัตรส่งเสริม หรือที่ตั้งสำนักงานที่ระบุในหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หากที่ตั้งโรงงานเปลี่ยนแปลง ให้แก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งที่สำนักบริหารการลงทุน 1 - 4 บีโอไอ สำนักงานใหญ่ ให้เรียบร้อยก่อน จึงยื่นขออนุญาตที่กลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศภายหลัง กรณีปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทในเครือเดียวกัน เป็นกรณีช่างฝีมือ หรือผู้ชำนาญการต่างชาติจำเป็นต้องไปปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทในเครือ เช่น วางแผน กำกับดูแล บริหารจัดการ ประชุม และลงนามเอกสารสำคัญ เป็นต้น โดยบริษัทในเครือ หมายถึงบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไป ซึ่งมีความสัมพันธ์กันในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือในหลายลักษณะ และกิจการบีโอไอที่ยื่นขออนุญาตต้องพิสูจน์ความเป็นในเครืออย่างน้อย 1 ข้อ ดังต่อไปนี้
ตำแหน่งหน้าที่ที่ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติจะไปปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทในเครือนั้น ต้องเป็นตำแหน่งที่บริษัทในเครือไม่มี หรือแม้ว่าจะมีตำแหน่ง และว่างอยู่ ก็ไม่สามารถบรรจุลงตำแหน่งนั้นได้ เนื่องจากตำแหน่งที่ว่างนั้นเป็นตำแหน่งสำหรับช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ปฏิบัติงานเป็นการประจำเท่านั้น การขออนุญาตไปปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทในเครือ จะได้รับอนุญาตหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลและความจำเป็นเป็นกรณีๆ ไป ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่สุด แม้บางกรณีจะไม่มีความสัมพันธ์ด้านการเป็นบริษัทในเครือ แต่หากมีเหตุผลและความจำเป็นที่มีน้ำหนักและสำคัญ ไม่เช่นนั้นวิสาหกิจในเครือจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ อาจได้รับอนุญาตก็ได้ กรณีเพิ่มสถานที่ปฏิบัติงานที่กิจการของลูกค้า เป็นกรณีที่ต้องมีการติดต่อ ประสานงาน และให้บริการลูกค้าที่วิสาหกิจของลูกค้า เช่น ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติในตำแหน่งด้านการตลาดและการขาย ด้านบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เป็นต้น โดยจะได้รับอนุญาตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเหตุผลและ ความจำเป็นเป็นกรณีๆ ไป และรายละเอียดเอกสารสัญญาการให้บริการเพื่อประกอบการพิจารณา หนังสือมอบอำนาจ การยื่นเรื่องขออนุญาตทุกเรื่องต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ไม่ได้มาติดต่อด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจเสมอ โดยประกอบด้วย
ซึ่งต้องยื่นหนังสือมอบอำนาจต้นฉบับทั้งชุดในการติดต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศครั้งแรกเสมอ กรณีเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้หนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท มาติดต่อด้วยตนเอง และเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ แต่ถ้าเป็นคนไทย ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อำนาจที่ปรากฏในหนังสือมอบอำนาจ ควรครอบคลุมการยื่นคำขอ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รับรอง และลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว รวมถึงทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล ชี้แจง ให้ถ้อยคำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติ ต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศบีโอไอ หนังสือมอบอำนาจ และหนังสือรับรองของบริษัท มีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่ในหนังสือนั้น แต่อาจน้อยกว่า 6 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขอำนาจหรือรายละเอียดในหนังสือนั้น ฉะนั้น กิจการบีโอไอสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตให้ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติที่เข้ามาปฏิบัติงานภายใต้สิทธิประโยชน์ด้านช่างฝีมือของบีโอไอ ไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ที่ปฏิบัติงานเป็นการประจำได้ โดยให้รายละเอียด พร้อมเหตุผล และความจำเป็น ประกอบการพิจารณา อีกทั้งแนบเอกสารตามใบตรวจเอกสารของงานช่างฝีมือ ตามมาตรา 25
การปฏิบัติงานนอกสถานที่ประเภทแรกที่เพิ่ม หรือย้ายท้องที่ทำงาน เป็นการปฏิบัติงานประจำในกิจการบีโอไอที่ใช้สิทธิประโยชน์ด้านช่างฝีมือ ขณะที่ประเภท ที่สอง และสาม เป็นการไปปฏิบัติงานยังวิสาหกิจอื่น ซึ่งอาจได้รับหรือไม่ได้รับการส่งเสริมฯ ก็ได้ บริการทั้งสามของบีโอไอ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ช่างฝีมือ/ผู้ชำนาญการต่างชาติสามารถปฏิบัติงานตามโครงการที่ได้รับส่งเสริมฯ ได้สำเร็จตามเป้าหมาย
สิทธิประโยชน์ช่างฝีมือต่างชาติภายใต้โครงการบีโอไอ
ที่มา : วารสารส่งเสริมการลงทุน เดือนสิงหาคม 2554 หลักเกณฑ์ด้านช่างฝีมือในกิจการบีโอไอ
การนำเข้าช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติในกิจการบีโอไอเป็นไปตามมาตรา 24, 25 และ 26 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 โดยมาตรา 24 เป็นกรณีการศึกษาลู่ทางการลงทุน หรือกระทำการอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน หรืออยู่ในขั้นตอนการขอรับการส่งเสริมฯ สำหรับมาตรา 25 และ 26 เป็นกรณีที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว จึงเป็นการให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ในการอยู่และปฏิบัติงานในราชอาณาจักร ด้วยระเบียบกฎหมายข้างต้น ทำให้ช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติที่เข้ามาปฏิบัติงานตามมาตรา 24 และในกิจการที่ได้รับส่งเสริมฯ ต้องปฏิบัติงานและอยู่ในราชอาณาจักรตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่บีโอไอกำหนด กิจการบีโอไอไม่ใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือได้หรือไม่
การได้รับการส่งเสริมฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 25 และ 26 เป็นการทั่วไป สำหรับการจะใช้สิทธิ์หรือไม่นั้นเป็นการดำเนินการของแต่ละธุรกิจ นอกจากนั้น ในกิจการบีโอไออาจมีช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติทั้งสองกลุ่ม คือ ทั้งที่ใช้และไม่ใช้สิทธิ์บีโอไอก็ได้ โดยกรณีใช้สิทธิ์ของธุรกิจทั่วไป สามารถดำเนินการยื่นคำขอ ต่อกรมการจัดหางานได้โดยตรง ไม่ต้องเสนอคำขอต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ บีโอไอ ซึ่งให้บริการร่วมกับกองกำกับการ 3 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน ที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 18 ปทุมวัน กรุงเทพฯ เงื่อนไขการอยู่ปฏิบัติงานในธุรกิจทั่วไป
กรณีธุรกิจทั่วไป หมายถึง กรณีธุรกิจที่ไม่ใช่กิจการบีโอไอ หรือแม้จะเป็นกิจการบีโอไอ ก็ไม่ใช้สิทธิ์ด้านช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติของบีโอไอ คนต่างด้าวในธุรกิจทั่วไปต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการอยู่ในราชอาณาจักร และเงื่อนไขของกรมการจัดหางาน เพื่อการทำงานในราชอาณาจักรด้วย คนต่างด้าว ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 กำหนดให้หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 777/2551 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 กำหนดหลักเกณฑ์กรณีเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยเหตุจำเป็นทางธุรกิจ เช่น
ระเบียบกรมการจัดหางานว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2552 กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ท้ายระเบียบ กรณีการทำงานกับนายจ้างซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย กำหนดหลักเกณฑ์ เช่น ธุรกิจมีขนาดการลงทุนจากทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยให้มีคนต่างด้าวได้ 1 คน และให้เพิ่มขึ้น 1 คนต่อขนาดการลงทุน ทุกๆ 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 คน ยกเว้นกรณีคนต่างด้าวมีคู่สมรสเป็นคนไทย ซึ่งจดทะเบียนสมรส และอยู่กินฉันท์สามีภรรยาโดยเปิดเผย ให้ขนาดการลงทุนลดลงกึ่งหนึ่ง เป็นต้น หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตช่างฝีมือในกิจการบีโอไอ
หลักเกณฑ์แรกในการยื่นคำขออนุญาตต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ บีโอไอ คือ ต้องเป็นกิจการที่อยู่ในขั้นตอนขอรับการส่งเสริมฯ หรือได้รับบัตรส่งเสริมฯ แล้ว หรือกรณีอื่นตามมาตรา 24 ที่กล่าวแล้วข้างต้น หลักเกณฑ์ต่อมา คนต่างด้าวต้องเป็นช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติ อีกทั้งมีเหตุผล และความจำเป็นในการจ้างคนต่างด้าวจึงเข้ามาทำงานในกิจการบีโอไอตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริมฯ ซึ่งช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาตินั้น ต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว ซึ่งคือ Non-B สำหรับธุรกิจ หรือ Non-IB สำหรับการลงทุนภายใต้กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมลงทุน นอกจากนั้น ยังมีหลักเกณฑ์สำคัญสำหรับช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติที่ทำงานในกิจการบีโอไอ ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์บีโอไอได้ โดยต้องมีอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ในข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
เมื่อเป็นช่างฝีมือต่างชาติภายใต้โครงการบีโอไอ
มีบางกิจการที่มีคุณสมบัติไม่เข้าเงื่อนไขของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ/หรือ กรมการจัดหางาน บีโอไอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ธุรกิจอาจสามารถเข้าหลักเกณฑ์ของบีโอไอได้ อีกทั้งกิจการบีโอไอที่ใช้สิทธิ์บีโอไอสำหรับช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติ ยังสามารถใช้บริการที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ได้อีกด้วย นอกจากนั้น การอยู่ปฏิบัติงานในราชอาณาจักรของช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติ ด้วยสิทธิ์ของบีโอไอ ก็จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบีโอไอด้วย หนังสือมอบอำนาจ
การยื่นเรื่องขออนุญาตทุกเรื่องต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ไม่สามารถมาติดต่อด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ หนังสือรับรองของบริษัท สำเนาบัตรประจำตัวของผู้มอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวของผู้รับมอบอำนาจ อากรแสตมป์ 10 หรือ 30 บาทตามแต่กรณี (10 บาท จะใช้ได้หนึ่งครั้ง 30 บาท สำหรับกรณีใช้เป็นการถาวร) ซึ่งต้องยื่นหนังสือมอบอำนาจต้นฉบับทั้งชุดในการติดต่อกับกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศครั้งแรกเสมอ กรณีเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ หากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท มาติดต่อด้วยตนเอง และเป็นคนต่างชาติ ให้แนบสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปช่างฝีมือ และหน้าการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ยังมีอายุอยู่ แต่ถ้าเป็นคนไทย ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อำนาจที่ปรากฏในหนังสือมอบอำนาจควรครอบคลุมการยื่นคำขอ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รับรอง และลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว รวมถึงทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล ชี้แจง ให้ถ้อยคำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการต่างชาติ ต่อกลุ่มผู้ชำนาญการต่างประเทศ บีโอไอ หนังสือมอบอำนาจ และหนังสือรับรองของบริษัท มีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่ของหนังสือนั้น แต่อาจน้อยกว่า 6 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขอำนาจหรือรายละเอียดในหนังสือนั้น ฉะนั้น คนต่างด้าวอาจเข้ามาอยู่ และปฏิบัติงานในราชอาณาจักร ด้วยสิทธิ์ของธุรกิจทั่วไป หรือสิทธิ์ของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนก็ได้ ซึ่งเฉพาะกิจการบีโอไอเท่านั้น ที่สามารถใช้สิทธิ์บีโอไอได้ แต่กิจการบีโอไออาจไม่ใช้สิทธิ์ของบีโอไอในการนำเข้าคนต่างด้าวก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ของบีโอไอ หรือไม่ประสงค์ที่จะใช้สิทธิ์นั้นก็ได้ บีโอไอจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการนำเข้าคนต่างด้าวมาปฏิบัติงานในกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน |
|