กรุณาตรวจสอบความถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์
1. การกำหนดมูลค่าการลงทุนที่นำมาคำนวณเป็นวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (Cap)
1.1 ค่าก่อสร้างอาคาร
1.1.1 | การใช้อาคารซึ่งเคยใช้ประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ได้ | |
1.1.2 | การใช้อาคารเดิมซึ่งพิสูจน์ได้ว่ายังไม่ได้ใช้ประโยชน์มาก่อน ได้ | |
1. | ใช้การปันส่วนตามพื้นที่หรือตามกำลังผลิต โดยให้ใช้มูลค่าตามสัญญาซื้อขายหรือราคาสุทธิตามบัญชีของงวดบัญชีก่อนยื่นคำขอรับส่งเสริมแล้วแต่กรณี (ข้อ 1.1.2 ของประกาศที่ ป. 1/2545) และต้องแสดงหลักฐานว่าอาคารในส่วนที่ขอนับวงเงินฯ ยังไม่เคยนับเป็นเงินลงทุนในบัตรอื่นมาก่อน | |
2. | ต้องแจ้งข้อมูลเรื่องอาคารเดิมไว้ในขั้นที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม จึงจะพิจารณานับมูลค่าดังกล่าวในขั้นตอนการเปิดดำเนินการ | |
1.1.3 | การก่อสร้างอาคารใหม่ หรือก่อสร้างเพิ่มเติมเพื่อรองรับโครงการขยาย ได้ |
1.2 ค่าเช่าอาคาร
1.2.1 | กรณีสัญญาเช่ามีระยะเวลามากกว่า 3 ปี และจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดิน/กรมที่ดิน ได้ | |
1. | ให้ตามมูลค่าการเช่าตามที่ระบุในสัญญา แต่ต้องไม่เกินจำนวนปีที่ได้รับสิทธิ ม.31 เช่น กรณีที่ทำสัญญาเช่า 10 ปี แต่ได้รับสิทธิ ม.31 เป็นเวลา 7 ปี จะคำนวณมูลค่าตามระยะเวลา 7 ปี | |
2. | กรณีเช่าอาคารก่อนวันที่ยื่นขอรับการส่งเสริมต้องพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อใช้สำหรับโครงการที่ขอส่งเสริม | |
1.2.2 | สัญญาเช่าอาคารมากกว่า 3 ปี แต่ไม่ได้ทำการจดทะเบียนกับ สำนักงานที่ดิน/กรมที่ดิน ไม่ได้ | |
1.2.3 | การเช่าอาคารพร้อมที่ดิน | |
• | มีการแยกค่าเช่าระหว่างอาคารและที่ดิน ได้ | |
ให้คำนวณเฉพาะค่าเช่าอาคาร | ||
• | ไม่ได้แยกค่าเช่าระหว่างอาคารและที่ดิน ไม่ได้ | |
ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 139) อาคารถือเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน หากไม่แยก ถือว่าเป็นการเช่าที่ดิน จึงนำมาคำนวณเป็นขนาดการลงทุนเพื่อวงเงินภาษีไม่ได้ |
1.3 ค่าเครื่องจักร
1.3.1 | กรณีมีการลงทุนเครื่องจักรแต่เครื่องจักรนั้นใช้งานอยู่ที่บริษัทผู้รับจ้าง เช่น การลงทุนแม่พิมพ์แล้วนำไปไว้ที่โรงงานของผู้รับจ้างเพื่อให้ผลิตชิ้นส่วนให้ | ||
• | ผู้รับจ้างอยู่ในประเทศ ได้ | ||
ต้องได้รับอนุมัติกรรมวิธีการผลิตที่เป็นการนำเครื่องจักรไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตด้วย | |||
• | ผู้รับจ้างอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ | ||
• | กิจการที่มีการให้บริการระหว่างประเทศตามโครงการที่ได้รับอนุมัติ เช่น กิจการขนส่งทางอากาศ กิจการขนส่งทางเรือ ได้ | ||
1.3.2 | กรณีที่ไม่มีการลงทุนเครื่องจักร (ไม่มีการบันทึกเป็นสินทรัพย์) | ||
• | กรณีที่บริษัทในเครือหรือบริษัทแม่ให้มา ได้ | ||
1. | ต้องแจ้งในคำขอรับการส่งเสริมครั้งแรกเท่านั้น | ||
2. | กรณีขอแก้ไขโครงการ ไม่นับวงเงินลงทุน แต่จะนับเฉพาะกำลังผลิตเท่านั้น | ||
3. | เป็นไปตามประกาศที่ ป. 1/2545 ข้อ 1.2.4 (เครื่องจักรที่จะนับวงเงินฯ ต้องเป็นเครื่องจักรที่มาจากบริษัทในเครือที่อยู่ในต่างประเทศ) | ||
4. | กรณีบริษัทในเครือหรือบริษัทแม่ให้มาถือว่าเป็นการลงทุน เนื่องจากในทางบัญชี สามารถตีมูลค่าเครื่องจักรเป็นทุนจดทะเบียนได้ | ||
• | กรณีที่บริษัทลูกค้าในต่างประเทศให้มา ไม่ได้ | ||
1. | นับเป็นกำลังผลิตให้ | ||
2. | แต่ไม่นับวงเงินเนื่องจากไม่ถือเป็นเงินลงทุน เพราะไม่มีความสัมพันธ์ในเชิงการถือหุ้น ซึ่งแตกต่างจากบริษัทแม่หรือบริษัทในเครือ |
1.4 ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการ
1.4.1 | ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนต่างๆ เช่น การจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม การจดทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจคนต่างด้าว หรือ การขออนุญาตอื่นๆ เป็นต้น ไม่ได้ |
ประกาศที่ ป.1/2545 กำหนดให้นับเฉพาะกรณีเป็นบริษัทตั้งใหม่ และเป็นค่าเดินทาง ค่าทนายความค่าธรรมเนียม และค่าหนังสือบริคณห์สนธิเท่านั้น |
2. การใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 31
2.1 | กรณีที่ขนาดการลงทุนขั้นต่ำยังไม่ถึง 1 ล้านบาท (หรือตามที่กำหนดในบัตร) แต่ยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ จะใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษีฯ ได้หรือไม่ ไม่ได้ | |
• | ให้ใช้สิทธิฯ ได้ นับจากวันที่มีขนาดลงทุนครบ 1 ล้านบาท (หรือตามที่กำหนดในบัตร) แต่เริ่มนับระยะเวลาการใช้สิทธิฯ ตั้งแต่วันที่มีรายได้ครั้งแรก | |
• | เนื่องจากยังไม่เป็นตามหลักเกณฑ์ในการให้การส่งเสริม | |
2.2 | กรณีที่ขนาดการลงทุนขั้นต่ำ ถึง 1 ล้านบาท (หรือตามที่กำหนดในบัตร) และมีการลงทุนเกินกว่า 1 ล้านบาทแล้ว แต่ในรอบปีต่อมามีการขายสินทรัพย์ออกไป ทำให้ขนาดการลงทุนขั้นต่ำไม่ถึง 1 ล้านบาท แต่ยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ จะใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษีฯ ได้หรือไม่ ได้ | |
ให้ใช้สิทธิได้ในช่วงที่มีขนาดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเท่านั้น | ||
2.3 | หลังจากได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการ (ตรวจสอบวงเงินแล้ว) หลังจากนั้น ขายสินทรัพย์ออกไป ทำให้ขนาดการลงทุนขั้นต่ำไม่ถึง 1 ล้านบาท จะใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษีฯ ได้หรือไม่ ไม่ได้ | |
• | เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการให้การส่งเสริม | |
• | จะถูกเพิกถอนสิทธิและประโยชน์ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ผิดเงื่อนไข | |
2.4 | บริษัทฯ ไม่ได้ยื่นแบบขอใช้สิทธิฯ ที่ BOI แต่ไปยื่น ภงด. 50 ใช้สิทธิฯ ที่กรมสรรพากร จะยื่นขอใช้สิทธิฯ ย้อนหลังได้หรือไม่ ไม่ได้ |
2.5 | การขายสินค้ากึ่งสำเร็จรูป | ||
2.5.1 | ปริมาณการจำหน่ายสินค้ากึ่งสำเร็จรูปจะนับอย่างไร | ||
1. | กรณีที่ระบุปริมาณสินค้ากึ่งสำเร็จรูปในบัตรส่งเสริม | ||
ใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้ไม่เกินปริมาณที่ระบุในบัตรส่งเสริม ตามประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2530 | |||
2. | กรณีที่ไม่ระบุปริมาณสินค้ากึ่งสำเร็จรูปในบัตรส่งเสริม | ||
ใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้ไม่จำกัดปริมาณ | |||
2.5.2 | หากยังไม่มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าสำเร็จรูป จะใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษีฯ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป ได้หรือไม่ ไม่ได้ | ||
เป็นไปตามเจตนาที่จะให้การส่งเสริมการผลิตสินค้าสำเร็จรูปตามบัตรส่งเสริม |
3. การใช้สิทธิฯ ตามมาตรา 35(1)
3.1 | การเริ่มใช้สิทธิฯ ตามมาตรา 35(1) ให้สิทธิฯ ต่อจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิฯ หรือวันที่ใช้วงเงินหมด ไม่ได้ |
ต้องใช้สิทธิฯ ต่อทันที นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาของ ม.31 หรือวันที่ใช้วงเงินหมด แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะสิ้นสุดก่อน |
4. การใช้สิทธิฯ ตามมาตรา 35(2) ค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปา
4.1 | ค่าขนส่ง คิดอย่างไร | |
ให้เฉพาะค่าขนส่งที่เกิดขึ้นในประเทศ สำหรับเครื่องจักร วัตถุดิบ และสินค้าของโครงการนั้น (ตามข้อหารือการประชุมร่วมระหว่างบีโอไอกับกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2541 และตามประกาศสำนักงานที่ ป.4/2537) | ||
4.1.1 | ค่ารถรับส่งพนักงาน ไม่ได้ | |
4.1.2 | กรณีที่ใช้ศูนย์กระจายสินค้า ไม่ได้ | |
ให้นับค่าขนส่งเฉพาะจากโรงงานไปยังศูนย์กระจายสินค้าเท่านั้น เนื่องจากสินค้าที่เก็บอยู่ในศูนย์กระจายสินค้ามาจากหลายแหล่งและอาจมีการนับค่าขนส่งซ้ำซ้อน | ||
4.2 | ค่าไฟฟ้า ประปา | |
4.2.1 | กรณีที่ไม่ได้จ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ได้ | |
ต้องมีหลักฐานการจ่ายให้กับหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐหรือรัฐวิสาหกิจให้ดำเนินการแทน | ||
4.2.2 | ค่าบำรุงรักษาที่เรียกเก็บแยกรายการมาพร้อมกับค่าไฟฟ้า ประปา ไม่ได้ | |
4.3 | ค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปา | |
4.3.1 | สามารถนับรวมค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนโรงงานและสำนักงาน ได้ | |
เฉพาะกรณีที่ตั้งในที่ตั้งเดียวกัน | ||
4.3.2 | สามารถนับรวมค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนที่ได้รับส่งเสริมและไม่ได้รับส่งเสริมใช่หรือไม่ ได้ | |
เฉพาะส่วนที่ได้รับการส่งเสริม โดยให้ปันส่วนตามสัดส่วนของรายได้ |
5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
5.1 | ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา | |
• | ใช้แนวทางตามนโยบาย STI ซึ่งกำหนดโดยอ้างอิงจากการหักค่าใช้จ่าย 2 เท่าของกรมสรรพากร/สวทช. | |
• | เฉพาะค่าเครื่องมือ/อุปกรณ์ ให้รวมทั้งเงินลงทุนด้านเครื่องจักรและ ค่าเช่าใช้งาน ตามแผนการวิจัยและพัฒนาที่ได้รับอนุมัติ | |
5.2 | กรณีอนุญาตให้เปิดดำเนินการก่อนครบกำหนดตรวจสอบเงื่อนไข STI | |
ให้ตรวจสอบเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ให้เขียนข้อความในหนังสือแจ้งบริษัทฯ โดยระบุวงเงินภาษีที่ตรวจสอบได้ ณ วันเปิดดำเนินการไว้ พร้อมแจ้งให้ทราบว่าหากไม่สามารถทำตามเงื่อนไข STI ได้ จะกลับไปกำหนดวงเงินภาษีตามที่แจ้งไว้ในหนังสือฯ |
6. การปรับวงเงินภาษีฯ
6.1 | กรณีเปลี่ยนที่ตั้งสถานประกอบการ และยังไม่ได้ตรวจเปิดดำเนินการ จะปรับเปลี่ยนวงเงินฯ ในขั้นเปิดดำเนินการในสถานที่ตั้งใหม่เท่านั้น ได้ |
(อาคารหรือส่วนปรับปรุงในที่ตั้งเดิมแม้จะสร้างใหม่หรือเช่าก็ตามจะไม่นับรวมมูลค่าวงเงินฯ) นับตามมูลค่าเงินลงทุน ณ วันที่ตรวจสอบวันเปิดดำเนินการ | |
6.2 | กรณีเปิดดำเนินการโดยปรับวงเงินแล้วต่อมาย้ายที่ตั้งปรากฏว่าการลงทุนลดลงจะพิจารณาปรับวงเงินอีกหรือไม่ ไม่ได้ |
เนื่องจากได้ถือว่าบริษัทปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขแล้ว ณ วันเปิดดำเนินการ |
7. การใช้สิทธิฯ ม. 31 กรณีโยกย้ายสถานประกอบการ
7.1 | กรณีบริษัทขอโยกย้ายสถานประกอบการ และในช่วงแรก (ไม่เกิน 2 ปี) หากมีรายได้ทั้งในที่ตั้งเดิมและที่ตั้งใหม่ จะสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ฯ ทั้ง 2 ที่ตั้ง หรือไม่ | |
1. | ในกรณีที่ที่ตั้งเดิมสิทธิฯ ม.31 ยังไม่สิ้นสุด : ได้
ปริมาณการจำหน่ายที่ใช้สิทธิฯได้ของทั้ง 2 แห่งรวมกันต้องไม่เกินกำลังผลิตที่ระบุในบัตรส่งเสริมโยกย้ายสถานประกอบการ ตามนโยบาย กำหนดให้ปิดโรงงานในที่ตั้งเดิมและเปิดดำเนินการในที่ตั้งใหม่ภายใน 2 ปี จึงใช้สิทธิฯได้ทั้ง 2 ที่ตั้ง | |
2. | ในกรณีที่ที่ตั้งเดิมไม่ได้รับสิทธิฯ ม.31 / สิทธิฯ ม.31 สิ้นสุดแล้ว: ไม่ได้
ปริมาณการจำหน่ายที่ใช้สิทธิฯได้ จะต้องเป็นสินค้าที่ผลิตในที่ตั้งใหม่ เท่านั้น โดยต้องไม่เกินกำลังผลิตที่ระบุในบัตรส่งเสริม และไม่เกินกำลังผลิตที่โยกย้ายไปติดตั้งจริง เนื่องจากได้รับสิทธิฯ ม. 31 จากการโยกย้ายฯ จึงใช้สิทธิฯได้เฉพาะรายได้ที่เกิดจากการผลิตในที่ตั้งใหม่เท่านั้น |
8. การโอนกิจการ
8.1 | ผู้รับโอนกิจการสามารถเริ่มใช้สิทธิภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ | |
ตั้งแต่วันที่ผู้รับโอนทำการผลิตและจำหน่ายจริง คือสามารถใช้สิทธิฯ ม. 31 ได้ต่อเนื่อง เพราะไม่มีการระบุวันที่อนุมัติให้การส่งเสริมในบัตรฯ | ||
8.2 | สินค้าสำเร็จรูปที่ได้รับโอนมา เมื่อนำออกขายจะใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้หรือไม่ ไม่ได้ | |
1. | ในการโอนกิจการ มีการซื้อ-ขายสินค้าเกิดขึ้น ตามที่ระบุเป็น “สินค้าคงเหลือตามราคาตลาด” ใน ภพ. 09 จึงถือว่าผู้โอนกิจการได้ใช้สิทธิฯ ยกเว้นภาษี ไปแล้ว | |
2. | ผู้รับโอน เป็นผู้ซื้อสินค้ามาจำหน่าย จึงไม่เป็นรายได้ตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริม ไม่สามารถสิทธิฯ ซ้ำซ้อนได้ |
pageview 12,953
Total Pageviews 5,063,636 since January 2014