
รบกวนสอบถาม กรณีที่บริษัทจะขอรับการส่งเสริมโครงการใหม่(โครงการขยาย) ประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Telecommunication parts โดยมีขั้นตอนการผลิตนำเม็ดพสลาสติกมาอบแล้วฉีดขึ้นรูปชิ้นตัดตกแต่งบางส่วนนำแม่พิมพ์(Mold) และวัตถุดิบ(Resin) ไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตแล้วนำมาประกอบเข้ากับชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น Ferrule,Spring,Cable เป็นต้น แล้วนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์แล้วขาย บริษัทขอสอบถามดังนี้
ข้อ.1 บริษัทขอยื่นเป็น 2 ประเภทผลิต คือ 1. ผลิตภัณฑ์ที่ฉีดเป็นชิ้นงานแล้วขายเลย 2. ผลิตภัณฑ์ที่ฉีดเป็นชิ้นงานแล้วนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์แล้วขาย สามารถทำได้หรือไม่
ข้อ.2 ถ้าสามารถทำได้ในส่วนของขั้นตอนการผลิตบริษัทต้องทำอย่างไรบ้าง
ข้อ.3 การใช้เครื่องจักรและวัตถุดิบต้องแยกหรือไม่(ขั้นตอนการยื่นขอส่งเสริมฯ และขั้นตอนกรผลิต)
รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ สำหรับข้อมูลกิจการที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ 2 ประเภท(2ผลิตภัณฑ์)ในโครงการเดียวกัน (บัตรส่งเสริม)
ขอบคุณครับ
ตอบคำถามดังนี้ครับ
ข้อ 1
กรรมวิธีการผลิตคือ ฉีดพลาสติกขึ้นรูปเป็น A บางส่วนจำหน่าย บางส่วนนำไปประกอบกับชิ้นส่วนอื่นที่จัดหามา เป็น B
กรณีนี้สามารถสามารถทำได้ โดยจะต้องระบุผลิตภัณฑ์ในคำขอ เป็น 2 ชนิด คือ A ปีละ ... และ B ปีละ ...
ข้อ 2
กรรมวิธีการผลิต จะระบุตามตัวอย่างในข้อ 1 ก็ได้
หรือจะแยกกรรมวิธีผลิตของ A และ B ให้ชัดเจนก็ได้ (คือ B ก็ระบุขั้นตอนฉีดพลาสติกไว้ด้วย)
โดยจะต้องระบุให้ชัดเจนว่า กำลังผลิตการฉีดพลาสติกทั้งโครงการจะมีเท่าใด ส่วนที่จะนำไปจำหน่ายเป็น A มีเท่าไร และส่วนที่จะนำไปประกอบเป็น B มีเท่าไร
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการคำนวณกำลังผลิตของเครื่องจักร (เครื่องฉีดพลาสติก) ในภายหลัง
ข้อ 3
ในขั้นขอรับส่งเสริม ไม่จำเป็นต้องแยกเครื่องจักรของ A และ B แต่ในการขออนุมัติบัญชีจะต้องแยกคำนวณให้ชัดเจน
ในขั้นการผลิตจริง ไม่จำเป็นต้องแยกโดยเคร่งครัด ในทางปฏิบัติจะใช้ร่วมกันหรือสลับกันก็ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องจักรในโครงการเดียวกัน
และวัตถุดิบก็ไม่จำเป็นต้องแยก เนื่องจากอยู่ในโครงการเดียวกัน
ปัญหา
บริษัทแจ้งว่า อาจมีการนำแม่พิมพ์และวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
ขณะที่บริษัทแจ้งว่า จะมีการจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติก (คือ A) ที่ยังไม่ได้ประกอบเป็น B ด้วย
ดังนั้น บริษัทจึงอาจว่าจ้างผู้อื่นให้ฉีดพลาสติก แล้วนำชิ้นส่วนที่ว่าจ้างผลิตนั้นไปจำหน่ายก็ได้
ซึ่งจะขัดกับสาระสำคัญในการให้ส่งเสริม
และถึงแม้บริษัทจะอ้างว่า ชิ้นส่วนพลาสติกที่จะว่าจ้างฉีด จะนำไปประกอบต่อเป็น B เท่านั้น จะไม่จำหน่ายเป็น A
แต่ในทางปฏิบัติ อาจไม่สามารถควบคุมได้
จึงควรทบทวนการว่าจ้างผลิต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการอนุมัติให้การส่งเสริม ครับ
ขอบคุณครับ ผมรบกวนขอคำแนะนำอีกครั้งว่า ถ้าตัดขั้นตอนการ นำแม่พิมพ์และแม่พิมพ์ไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตแล้ว ถ้าบริษัทฯ ทำเองทั้งหมดควรยื่นเป็นประเภทอะไรที่ขอรับการส่งเสริมครับ เช่น 4.2.11.2 (ฉีดชิ้นส่วนพลาสติกขายและฉีดชิ้นส่วนพลาสติกประกอบชิ้นส่วนอื่น เช่น Ferrule ,Cable เป็นต้น) เป็นผลิตภัณฑ์ชิ่นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Telecommunication parts ขอบคุณครับ
การผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม ที่มีการขึ้นรูปพลาสติก จัดอยู่ในประเภท 6.4.1
การผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและนำไปประกอบเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วง และสายสัญญาณอื่นๆ โดยไม่มีการขึ้นรูปโลหะหรือวัสดุนำไฟฟ้า จัดอยู่ในประเภท 4.2.11.4
แต่ถ้าเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ Optical Fiber, Optical Device และ Electro- optical Device จัดอยู่ประเภท 4.2.11.2 ครับ
ขอบคุณครับ