FAQ108 ความรู้ BOI ความรู้ IC คลังคำถามคำตอบ เว็บบอร์ด FAQ108 Our Services Contact US

ความรู้เกี่ยวกับงาน BOI
รวบรวมคำถามเกี่ยวกับการยื่นคำขอรับการส่งเสริม

1. การขอรับส่งเสริมมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?

ตอบ : ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


2. ขอรับแบบฟอร์มคำขอรับการส่งเสริมได้จากที่ใด?

ตอบ :

  1. ศูนย์บริการลงทุน (โทร 02-553-8111)
  2. สำนักงาน BOI ในต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
  3. Download จาก เว็บไซต์ของ BOI

3. คำขอรับการส่งเสริมมีกี่ประเภท?

ตอบ :

  1. คำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการทั่วไป
  2. คำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการซอฟต์แวร์
  3. คำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการบริการ

4. ปรึกษาวิธีกรอกคำขอได้ที่ใด?

ตอบ : ศึกษาได้จาก คู่มือการกรอกคำขอรับการส่งเสริม หรือ ปรึกษาที่ศูนย์บริการลงทุนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ควรโทรศัพท์นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ก่อน


5. ยื่นคำขอรับการส่งเสริมในนามบุคคลได้หรือไม่?

ตอบ : ได้ แต่มีข้อควรระวังดังนี้

  1. จะเป็นบุคคลไทยหรือบุคคลต่างชาติก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ และสามารถกระทำนิติกรรมได้ตามกฎหมาย
  2. ภายหลังจากได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในนามบุคคล จะต้องจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อขอรับบัตรส่งเสริม จะนำบริษัทที่จัดตั้งอยู่แล้วมาขอรับบัตรส่งเสริมแทนไม่ได้

6. ยื่นคำขอรับการส่งเสริมได้ที่ใด?

ตอบ : สามารถยื่นได้ที่

  1. กรณีที่ยื่นคำขอ Online
    • ยื่นคำขอผ่านระบบ Internet แต่ในวันนัดหมายชี้แจงโครงการ จะต้องนำคำขอรับการส่งเสริมต้นฉบับ 1 ชุดที่มีลายเซ็นผู้ขอรับการส่งเสริม มายื่นต่อ BOI เพื่อลงทะเบียนรับคำขอ
  2. กรณีที่ยื่นเอกสาร
    • ยื่นคำขอจำนวน 2 ชุด ที่กองบริหารสิทธิและประโยชน์ที่ 1-5 ซึ่งเป็นกองผู้พิจารณาประเภทกิจการตามคำขอนั้นๆ หรือ
    • ยื่นผ่านสำนักงาน BOI ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ

7. ระยะเวลาในการอนุมัติให้การส่งเสริมกำหนดไว้อย่างไร?

ตอบ : กำหนดตามขนาดของโครงการ ดังนี้

ขนาดโครงการกำหนดเสร็จ
-กิจการซอฟต์แวร์ทุกขนาดกิจการ หรือกิจการไม่เกิน 40 ล้านบาทและไม่มีประเด็นเชิงนโยบาย15 วันทำการ
-ไม่เกิน 80 ล้านบาท และไม่มีประเด็นเชิงนโยบาย40 วันทำการ
-ไม่เกิน 200 ล้านบาท60 วันทำการ
-200-750 ล้านบาท หรือเกิน 750 ล้านบาทแต่ส่งออกเป็นส่วนใหญ่60 วันทำการ
-เกิน 750 ล้านบาท และจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่90 วันทำการ

8. โครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว สามารถนำมายื่นขอรับส่งเสริมได้หรือไม่?

ตอบ : ไม่ได้ ยกเว้นใน 2 กรณี ดังนี้

  1. เป็นการยื่นคำขอโยกย้ายสถานประกอบการ (Click ที่นี่) เพื่อดูรายละเอียด
  2. เป็นการยื่นคำขอตามนโยบายให้การส่งเสริมกิจการที่ประกอบการอยู่เดิม (Click ที่นี่) เพื่อดูรายละเอียด

9. สามารถยื่นขอรับส่งเสริมได้หลายโครงการหรือไม่?

ตอบ : ได้ แต่ทั้งนี้ แต่ละโครงการจะต้องมีการลงทุนใหม่เกิดขึ้นจริง และต้องไม่ใช้เครื่องจักรหลักร่วมกัน เว้นแต่จะได้รับอนุมัติเป็นกรณีไป


10. สามารถยื่นคำขอหลายโครงการ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันได้หรือไม่?

ตอบ : ได้ แต่ทั้งนี้ แต่ละโครงการจะต้องมีการลงทุนใหม่เกิดขึ้นจริง และต้องไม่ใช้เครื่องจักรหลักร่วมกัน เว้นแต่จะได้รับอนุมัติเป็นกรณีไป


11. บริษัทมีแผนจะลงทุนเป็นระยะ เช่น ในปีแรกผลิตชิ้นส่วน ในปีที่ 2 ผลิตสินค้าสำเร็จรูป ควรยื่นคำขออย่างไร?

ตอบ : ยื่นได้ 2 วิธี คือ

  1. แยกเป็น 2 คำขอ โดยยื่นคำขอที่ 1 เพื่อผลิตชิ้นส่วนก่อน และหลังจากนั้นเมื่อพร้อมที่จะลงทุนสำหรับการผลิตสินค้าสำเร็จรูป จึงยื่นคำขอที่ 2 เพื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปในภายหลัง
  2. ยื่นรวมกันเป็น 1 คำขอ โดยระบุแผนการลงทุนเครื่องจักรสำหรับชิ้นส่วนและสินค้าสำเร็จรูปโดยชัดเจน ซึ่ง BOI อาจกำหนดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรออกเป็นช่วง มีกำหนดช่วงละ 30 เดือน ตามแผนการลงทุนของบริษัทก็ได้ แต่การใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีรายได้ของโครงการเท่านั้น (ไม่สามารถแยกนับเป็นช่วงๆ ตามรายได้ของการผลิตชิ้นส่วนหรือรายได้จากการผลิตสินค้าสำเร็จรูปได้)

12. กรณีที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังผลิตของโครงการเดิม ควรยื่นคำขอรับการส่งเสริมใหม่ หรือควรยื่นเรื่องแก้ไขกำลังผลิตของโครงการเดิม?

ตอบ : ทำได้ทั้ง 2 วิธี โดยมีข้อแตกต่างดังนี้

  1. กรณียื่นคำขอใหม่
    • จะต้องมีการลงทุนเครื่องจักรส่วนใหม่เพิ่มเติมโดยชัดเจน ซึ่งต้องไม่เป็นการใช้เครื่องจักรหลักร่วมกันกับโครงการเดิม
    • กำลังผลิตของคำขอใหม่ จะคำนวณจากเครื่องจักรใหม่ที่ลงทุนเพิ่มเติม
    • จะออกบัตรส่งเสริมฉบับใหม่โดยได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ ณ วันที่ยื่นคำขอใหม่
    • จะต้องแยกควบคุมการใช้สิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ แยกจากสิทธิประโยชน์ของโครงการเดิม
  2. กรณีแก้ไขกำลังผลิตของโครงการเดิม
    • จะต้องยื่นขอแก้ไขโครงการก่อนที่โครงการเดิมจะเปิดดำเนินการครบตามโครงการ
    • จะต้องเพิ่มกำลังผลิตไม่เกิน 30% ของบัตรส่งเสริมเดิม เว้นแต่การยื่นขอส่งเสริมเป็นโครงการใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกันกับโครงการที่ได้รับส่งเสริมอยู่เดิม
    • จะได้รับสิทธิประโยชน์เท่าที่เหลืออยู่ของโครงการเดิม
    • จะไม่ออกบัตรส่งเสริมฉบับใหม่ให้ โดยจะเป็นการแก้ไขบัตรส่งเสริมฉบับเดิม

pageview 13,384

Total Pageviews 5,063,613 since January 2014