janis โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568, 11:50:17 (14 สัปดาห์ ก่อน)
Top

แผ่น PCB ที่เสียระหว่างการผลิต และ  NG FG 

คำถาม

นอกสูตร

1.ทางเราสามารถเลือกได้หรือไม่ว่าจะ เสียภาษีตามสภาพเศษ หรือตามสภาพวัตถุดิบ ณ วันนำเข้า

2.กรณีชำระภาษีตามสภาพเศษ - ทางเราขอวิธีการทำลาย เพื่อจำหน่ายในประเทศ ในกรณีนี้จะมีค่าปรับหรือไม่คะ

3.กรณีชำระภาษีตามสภาพวัตุดิบ - สภาพวัตถุดิบในที่นี้คือ ตามสภาพ ณ วันที่เรานำเข้าใช่ไหมคะ ก่อนที่ทางเราจะจำหน่าย ทางเราต้องชำระภาษีก่อน ในส่วนนี้จะมีค่าปรับหรือไม่คะ

ในสูตร

1.การตั้งชื่อส่วนสูญเสีย ทางเราสามารถตั้งชื่อตามโรงงานของเรากำหนดได้หรือไม่ หรือว่าต้องตั้งชื่อตามสภาพผลิตภัณฑ์นั้น 

ถ้าสมมติเป็นเศษกรอบ จะต้องตั้งตั้งชื่อว่าอย่างไรคะ (สามารถตั้งชื่อว่า เศษกรอบทองแดง - scrap copper frame / เศษกรอบที่เคลือบลามิเนต scrap Laminate frame) แบบนี้ได้หรือไม่คะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568, 13:52:37 (13 สัปดาห์ ก่อน)
#1 Top

ตอบคำถามดังนี้ครับ

ส่วนสูญเสียนอกสูตร

1. สามารถขอชำระภาษีอากรตามสภาพ ณ วันนำเข้า หรือขอชำระภาษีในข่ายส่วนสูญเสียก็ได้

2. กรณีชำระภาษีตามสภาพวัตถุดิบ ณ วันนำเข้า

- ต้องชำระตามราคาวัตถุดิบและอัตราภาษี ณ วันนำเข้า จึงมีภาระภาษีสูงกว่าการชำระภาษีตามสภาพส่วนสูญเสีย

- ต้องชำระค่าปรับ vat ด้วย

3. กรณีชำระภาษีตามสภาพส่วนสูญเสีย

- ต้องทำลายเป็นเศษซากตามวิธีทำลายที่ได้รับอนุมัติจาก BOI

- ภาษีอากรจะประเมินจากราคา/และพิกัดตามสภาพเศษซาก จึงมีภาระภาษีน้อยกว่าการชำระภาษีตามสภาพ ณ วันนำเข้า

- ไม่มีค่าปรับ vat

4. ทุกกรณีต้องชำระภาษีให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะจำหน่ายส่วนสูญเสียนอกสูตรในประเทศได้

ส่วนสูญเสียในสูตร

1. การตั้งชื่อส่วนสูญเสีย ปกติให้อิงตามชื่อที่มีพิกัดศุลกากร

เช่น ถ้าเป็นเศษกรอบทองแดง ปกติควรยื่นขอชำระภาษีเป็นเศษทองแดง ครับ

 

janis โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568, 16:05:12 (13 สัปดาห์ ก่อน)
#2 Top

ถ้าหากว่าในเศษกรอบของแผ่น PCB มีหลาย material แต่ทางเราไม่สามารถแยกได้ เนื่องจากว่ามีวัตถุดิบหลายอย่างรวมกัน  เช่น มี copper clad laminate , prepreg , copper ball , tin ball เป็นต้น ในกรณีนี้ควรจะพิจารณาการตั้งชื่ออย่างไรคะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568, 10:31:33 (13 สัปดาห์ ก่อน)
#3 Top

ตอบคำถามดังนี้ครับ

บริษัทได้รับส่งเสริมผลิต Multilayer PCB และเกิดส่วนสูญเสียในขั้นตอนผลิต ซึ่งเป็นส่วนสูญเสียนอกสูตร และจะขอชำระภาษีตามสภาพเศษซาก เพื่อจำหน่ายในประเทศ

1. ต้องขออนุมัติวิธีการทำลาย PCB และทำลายตามวิธีที่ได้รับอนุญาต

2. ในการทำลาย ต้องให้บริษัท Inspector ที่ได้รับอนุญาตจาก BOI ร่วมตรวจสอบ และออกใบรับรองตามที่ BOI กำหนด

3. หากเศษซาก PCB ที่ทำลายแล้ว มีพิกัดศุลกากร

ให้ยื่นขอชำระภาษีเศษซาก PCB

4. แต่หากเศษซาก PCB ไม่มีพิกัดศุลกากร

ให้ยื่นขอชำระภาษีเศษซากวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ ที่มีอยู่ในเศษซาก PCB นั้น เช่น เศษทองแดง เศษดีบุก เป็นต้น

4.1 การคำนวณปริมาณเศษซากทองแดง ดีบุก ฯลฯ สามารถคำนวณได้จากหลักฐานข้อเท็จจริงของบริษัท

เช่น ส่วนสูญเสียที่ขอทำลายใน Lot นั้นๆ เกิดจากการผลิต PCB รุ่นใด จำนวนเท่าไร แต่ละรุ่นมีส่วนประกอบของเศษวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์จำนวนกี่รายการ รายการละเท่าไร เป็นต้น

4.2 การตรวจสอบรับรองรายการ/และปริมาณเศษวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ ตามข้อ 4.1 อาจทำได้ 2 วิธีคือ

ให้บริษัท Inspector ตรวจสอบ และระบุในใบรับรองด้วย หรือให้ จนท BOI ตรวจสอบในขั้นตอนการขออนุญาตชำระภาษี

ซึ่งเรื่องนี้ แนะนำว่าควรปรึกษากับ จนท BOI ผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัท เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติตามที่ จนท เห็นสมควรต่อไป ครับ

janis โพสต์เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฏาคม 2568, 14:14:12 (6 สัปดาห์ ก่อน)
#4 Top

รบกวนสอบถามเพิ่มเติมค่ะ

1. ถ้าเป็นส่วนสูญเสียนอกสูตร อย่างเช่น NG-FG และ SEMI เราต้องยื่นสูตรการผลิตเข้าระบบ  RMTS เหมือนผลิตภัณฑ์ส่งออกปกติไหมคะ

2. สำหรับ  Scarp NG-FG และ SEMI ตอนนี้เรายังไม่ได้ยื่นสูตรเข้าระบบ แต่เราสามารถแตก  BOM  ออกมาแนบไปทางBOI สามารถขาย Scarp ได้ไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฏาคม 2568, 15:26:28 (6 สัปดาห์ ก่อน)
#5 Top

ตอบคำถามดังนี้

1. ส่วนสูญเสียนอกสูตรการผลิต มีอัตราไม่คงที่ จึงไม่มีสูตรการผลิต และไม่ต้องยื่นสูตรการผลิตต่อ BOI

แต่จะต้องให้ บ.inspector ตรวจสอบรับรองชนิด/และปริมาณส่วนสูญเสียนอกสูตร ก่อน/และหลังการทำลาย เป็นครั้งๆไป

2. ขั้นตอนการขอชำระภาษีและจำหน่ายส่วนสูญเสียนอกสูตร ได้ตอบไว้ในคำถามก่อนหน้านี้แล้วครับ

janis โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568, 17:00:38 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#6 Top

เรียน เจ้าหน้าที่

รบกวนสอบถามพเรื่องเสียภาษีค่ะ

1.การจัดการส่วนสูญเสียในสูตรของบริษัทเราคือนำไปบดหรือเปลี่ยนสภาพก่อนจำหน่าย ดังนั้นบริษัทต้องขอชำระภาษีตามชื่อและปริมาณของscarp ตามสถานะเดิม หรือสถานะหลังจากที่ได้ดำเนินการเปลี่ยนสภาพแล้ว

2.สำหรับเศษวัสดุนอกสูตรที่บริษัทดำเนินการทำลายโดยการบดพร้อมกับเติมน้ำเข้าไปในเศษวัสดุ ซึ่งทำให้น้ำหนักของเศษวัสดุจริงมีมากกว่าน้ำหนักของวัตถุดิบ BOI ที่เป็นส่วนประกอบในเศษวัสดุนั้น บริษัทต้องยื่นขอชำระภาษีโดยใช้ปริมาณน้ำหนักรวมของเศษวัสดุทั้งหมด หรือใช้เฉพาะน้ำหนักของวัตถุดิบ BOI เท่านั้น?

 

ADMIN โพสต์เมื่อวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568, 10:42:00 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#7 Top

ตอบคำถามดังนี้

1. ส่วนสูญเสียในสูตรการผลิต คือเศษวัตถุดิบหรือของที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

หากมีมูลค่าเชิงพาณิชย์ ต้องชำระภาษีอากรตามสภาพเศษ ก่อนจำหน่ายหรือโอนเศษวัตถุดิบนั้นในประเทศ

2. ส่วนสูญเสียนอกสูตรการผลิต ต้องทำลายเป็นเศษซาก ตามวิธีที่ได้รับอนุมัติ

หากเศษซากมีมูลค่าเชิงพาณิชย์ ต้องชำระภาษีอากรตามสภาพเศษซาก ก่อนจำหน่ายหรือโอนเศษวัตถุดิบนั้นในประเทศ

กรณีมีการเติมน้ำในขั้นตอนทำลาย จะแสดงปริมาณน้ำที่รวมอยู่ด้วยก็ได้ครับ

แก้ไขโดย ADMIN เมื่อวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568, 14:20:33
janis โพสต์เมื่อวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568, 19:47:33 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#8 Top

ขอสอบถามเพิ่งเติมค่ะ

1.ส่วนสูญเสียในสูตรของบริษัท คือ เศษกรอบชิ้นงาน ซึ่งบริษัทดำเนินการบดและแปรรูปกรอบดังกล่าวก่อนจำหน่ายให้กับผู้รับซื้อ ดังนั้น บริษัทควรชำระภาษีโดยยึดตามสถานะของกรอบในสภาพเริ่มต้น หรือควรชำระภาษีโดยอ้างอิงจากสถานะหลังผ่านกระบวนการบดแปรรูป

หากยื่นขอชำระภาษีโดยใช้สถานะของกรอบสภาพเริ่มต้น อาจทำให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับสถานะที่บริษัทจำหน่ายจริง ในกรณีที่ BOI หรือกรมศุลกากรดำเนินการตรวจสอบย้อนหลัง บริษัทอาจประสบปัญหาหรือข้อขัดแย้งหรือไม่?

2.สำหรับส่วนสูญเสียในนอกสูตร

บริษัทได้ทำลายส่วนสูญเสียโดยใช้วิธีบดผสมน้ำหลังจากบดทำลายแล้วจะได้เศษแบ่งเป็นสองส่วน คือ

ส่วน A ที่มีน้ำหนักแน่นอน (ผ่านการอบแห้งเรียบร้อยแล้ว)

ส่วน B ที่ยังไม่ได้อบแห้งและยังมีความชื้น

เนื่องจากน้ำหนักของส่วน B จะลดลงอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ก่อนที่จะดำเนินการชำระภาษีและการจำหน่าย ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าความชื้นจะลดลงมากน้อยเพียงใด ดังนั้น น้ำหนักของส่วน B นี้ บริษัทสามารถใช้น้ำหนักทฤษฎี โดยคำนวณจากน้ำหนักก่อนทำลาย ลบ ด้วยน้ำหนักของส่วน A เพื่อรายงานต่อ BOI ได้หรือไม่?

 

ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568, 11:06:28 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#9 Top

ตอบคำถามดังนี้

1. ไม่เข้าใจคำถามของบริษัท ขอให้ช่วยขยายความให้อีกครั้ง และการนำเศษวัตถุดิบไปแปรรูปก่อนจำหน่าย คืออะไร

ส่วนสูญเสียในสูตร ถือว่าถูกทำลายเป็นเศษ ในกระบวนการผลิตแล้ว จึงไม่ต้องทำลายซ้ำอีก

การบีบอัดเพื่อลดขนาด ฯลฯ เป็นเพียงความสะดวกในการจัดเก็บ ขนส่ง เท่านั้น

2. ส่วนสูญเสียนอกสูตร ทำลายโดยการบดอัดและอบให้แห้ง และชำระภาษีตามสภาพเศษ

ส่วน A ที่อบแห้งแล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร

ส่วน B ยังอบไม่แห้ง มีความชื้น น้ำหนักจึงมากกว่า A บริษัทคงจะไม่จำหน่ายหรือโอนในสภาพ B จึงไม่เข้าใจคำถามของบริษัทครับ

janis โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568, 13:47:54 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#10 Top

อธิบายคำถามดังนี้ค่ะ

1. ส่วนสูญเสียในสูตร มันเป็นเศษอยู่แล้วไม่ต้องไปทำลายค่ะ แต่บริษัทต้องการจะนำไปบดเพื่อให้มีความสะดวกในการจำหน่ายให้กับผู้รับซื้อค่ะ พอบดเสร็จแล้วก็จะเป็นเศษฝุ่นออกมาค่ะ ดังนั้น ตอนที่บริษัทชำระภาษี ต้องชำระตามสภาพเดิมที่เกิดขึ้นจากการผลิต หรือชำระตามสภาพเศษฝุ่นที่บริษัทบดเสร็จคะ

2. ก่อนทำลายมีน้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม หลังจากเติมน้ำและทำลายแล้ว เกิดเศษซาก 2 ประเภท คือ

เศษ A ที่ ที่อบแห้งแล้วมีน้ำหนัก 500 กิโลกรัม และ

เศษ B ที่ไม่ได้อบแห้ง และมีความชื้นระเหยออกไปตามธรรมชาติในแต่ละวัน

ทางเราต้องการที่จะชำระภาษีเลยโดยที่ไม่รอให้เศษ B แห้ง ในกรณีนี้ สามารถใช้วิธีคำนวณน้ำหนักของเศษ B  โดยการนำน้ำหนักก่อนทำลาย1000 กก. ลบด้วย น้ำหนักของเศษ A 500กก.(ที่อบแห้งแล้ว) เพื่อให้ได้ น้ำหนักของของเสีย B ที่ไม่รวมความชื้น ได้หรือไม่?

3. หากเศษ B เป็นเศษ ที่ไม่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องยื่นเอกสารหลักฐานอะไรบ้างในขั้นตอนอนุมัติตัดบัญชีส่วนสูญเสียไหมคะ?

ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568, 15:47:03 (6 วัน ก่อน)
#11 Top

ตอบคำถามดังนี้ครับ

1. ส่วนสูญเสียในสูตรที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ จะต้องชำระภาษีอากรตามสภาพ ก่อนการจำหน่ายหรือโอนให้ผู้อื่น

กรณีที่สอบถาม บริษัทนำส่วนสูญเสียในสูตร คือเศษ A ไปบดเป็นผง เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บรอจำหน่าย

หากเศษ A ก่อนและหลังบดเป็นผง ยังคงเป็นเศษ A เหมือนกัน และมีพิกัดศุลกากรเดียวกัน

การชำระภาษีอากรตามสภาพเศษ A ไม่ว่าจะก่อนบด หรือหลังบด จึงไม่น่าจะแตกต่างกัน

2. กรณีของบริษัท จะมีการเติมน้ำในการบด ทำให้เศษ A หลังบด มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เช่น ก่อนบด 1,000 KG หลังบด 1,200 KG

ปริมาณที่บริษัทควรยื่นขอชำระภาษีเศษ A ตามสภาพ คือ 1,000 KG ไม่ใช่ 1,200 KG

เพราะปริมาณเศษ A ที่มีภาระภาษี คือเพียง 1,000 KG เท่านั้น

3. และถึงแม้ว่าบริษัทจะจำหน่ายเศษ A ในสภาพที่มีความชื้น โดยมีน้ำหนัก 1,200 KG (รวมน้ำหนักน้ำ)

บริษัทก็มีหน้าที่ต้องชำระภาษีเฉพาะเศษ A จำนวน 1,000 KG เท่านั้น

4. ขอยกตัวอย่างอื่น เช่น บริษัทนำเศษ A ไปผสมกับเศษเชื้อเพลิงชนิดอื่นที่ไม่ได้นำเข้าโดยใช้สิทธิ BOI และจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง (สมมุติ)

กรณีนี้บริษัทก็ยังคงมีภาระภาษีต้องชำระภาษีอากรตามสภาพเศษ A จำนวน 1,000 KG เท่านั้น

5. ส่วนสูญเสียในสูตร ที่ไม่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ สามารถกำจัดได้ตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องแจ้ง BOI ครับ

<< ก่อนหน้า       1       ถัดไป >>

ถ้าหากคุณต้องการโพสต์ในกระทู้นี้ กรุณา ลงชื่อเข้าใช้ หรือ ลงทะเบียนใช้งานเว็บบอร์ด