DUCK โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563, 13:42:30 (265 สัปดาห์ ก่อน)
|
เนื่องจากทาง บริษัทได้นำสินค้าเข้ามาภายใต้มาตรา 36 เท่ากับ 1 ชิ้น และต่อมาลูกค้าได้ขอให้ส่งชิ้นส่วนสินค้าตัวไปก่อน ซึงเท่ากับ ทางบริษัทขายสินค้าตัวนี้ไปยังต่างประเทศโอยที่ยังไม่ได้ประกอบ แบบนี้บริษัท ต้องดำเนินเรื่องเสียภาษีย้อนหลังใน หัวข้อใดคะ (สินค้าได้ส่งออกไปยังลูกค้าที่ต่างประเทศแล้ว) ขอบคุณมากคะ
การชำระภาษีอากรวัตถุดิบและวัสดุจำเป็น ตามมาตรา 36
วัตถุดิบและวัสดุจำเป็นที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 36 มีภาระต้องชำระภาษีอากรใน 4 กรณี ดังนี้
- นำไปผลิตเป็นสินค้าและจำหน่ายในประเทศ
- เป็นผลิตภัณฑ์ตามโครงการที่ได้รับส่งเสริมที่ไม่สามารถส่งออกได้ (ประกาศ สกท ที่ ป.5/2541)
- ต้องเป็นโครงการที่ส่งออกเป็นส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80)
- ต้องชำระภาษีอากรผลิตภัณฑ์ ตามสภาพ ณ วันที่ BOI อนุญาตให้จำหน่าย
- ต้องชำระภาษีอากรก่อนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
- นำไปจำหน่าย หรือผลิตจำหน่ายในประเทศ
- ต้องชำระภาษีอากรตามสภาพวัตถุดิบ ณ วันนำเข้า ดังนี้
- อากรขาเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามสภาพและพิกัดศุลกากร ณ วันนำเข้า
- เงินเพิ่มของภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
- เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 เท่า
- เงินเพิ่มของอากรขาเข้า ร้อยละ 1 ต่อเดือน กรณีที่ไม่ไปชำระตามที่กรมศุลกากรกำหนด
- จำหน่ายในสภาพเศษซากวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์
- ต้องชำระภาษีอากรตามสภาพเศษซาก โดยใช้พิกัดอัตราในปัจจุบัน (ประกาศ สกท ที่ ป.5/2543)
- วัตถุดิบที่ยังคงเหลืออยู่ในบัญชี หลังจากสิทธิประโยชน์มาตรา 36 สิ้นสุดลงแล้วเกินกว่า 1 ปี
- ต้องชำระภาษีอากรตามสภาพวัตถุดิบ ณ วันนำเข้า ดังนี้
- อากรขาเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามสภาพและพิกัดศุลกากร ณ วันนำเข้า
- เงินเพิ่มของภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
- เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 เท่า
- เงินเพิ่มของอากรขาเข้า ร้อยละ 1 ต่อเดือน กรณีที่ไม่ไปชำระตามที่กรมศุลกากรกำหนด
|
ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563, 16:46:11 (265 สัปดาห์ ก่อน)
#1
|
บริษัทนำวัตถุดิบที่นำเข้าโดยใช้สิทธิมาตรา 36 ไปผลิตเป็นสินค้าไม่ครบขั้นตอนที่ได้รับอนุมัติ และนำไปส่งออก
กรณีนี้แม้ว่าอาจจะมีการส่งออกไปจริง แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ชนิดและปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ไปจริงได้
จึงจะต้องขออนุญาตชำระภาษีตามสภาพ ณ วันนำเข้า แล้วนำเอกสารหลักฐานไปตัดบัญชี (ปรับยอด) ครับ
|
DUCK โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563, 11:11:55 (264 สัปดาห์ ก่อน)
#2
|
เรียน เจ้าหน้าที่ เนื่องจากเราขายวัตถุดิบตัวนี้ ไปยังต่างประเทศ แล้วเราต้องใช้ แบบฟอร์มไหนในการยื่นกับ บีโอไอคะ เพราะว่า ตาม F IN RM35-03 เป็นฟอร์มที่นำมาผลิตแล้วขายในประเทศ ส่วน F IN RM 32-03 เป็น ฟอร์มหมดสิทธิประโยชนแล้วจึงขอเสียอากร ขอบคุณมากคะ
|
ADMIN โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563, 11:31:19 (264 สัปดาห์ ก่อน)
#3
|
เว็บบอร์ด FAQ108 ไม่ใช่เป็นการตอบคำถามโดย BOI หรือสมาคม IC
กรณีที่สอบถาม บริษัทไม่สามารถพิสูจน์ชนิดและปริมาณวัตถุดิบที่นำไปผลิตไม่ครบขั้นตอนแล้วส่งออก
จึงให้ยื่นขอชำระภาษีตามสภาพ ณ วันนำเข้า ตามแบบ F IN RM 35-03 ในข่ายวัตถุดิบที่ไม่ได้นำมาผลิตส่งออก ครับ
|
DUCK โพสต์เมื่อวันพุธที่ 4 มีนาคม 2563, 11:06:01 (264 สัปดาห์ ก่อน)
#4
|
เรียน เจ้าหน้าที่ เนื่องจากวัตถุดิบของเราได้ส่งออกจากประเทศไทยไปยังลูกค้าแล้ว แล้วทางเราสอบถามทาง Shipping เกี่ยวกับการขอชำระภาษี ณ วันนำเข้า ทาง Shipping แจ้ง จะต้องให้เจ้าหน้าที่ กรมศุลกากร มาตรวจของที่บริษัท เพื่อประเมินอากร แบบนี้ทางบริษัทควรดำเนินการยังไงคะ เพราะเท่าที่บริษัททราบ เจ้าหน้าที่ กรมศุลกากรจะเข้ามาตรวจเฉพาะ วัตถุดิบที่ Scarp อย่างเดียว
|
ADMIN โพสต์เมื่อวันพุธที่ 4 มีนาคม 2563, 14:44:32 (264 สัปดาห์ ก่อน)
#5
|
การขอชำระภาษีอากรวัตุดิบตามสภาพ ณ วันนำเข้า ที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 36 ของ BOI
แอดมินไม่เคยได้ยินว่ากรมศุลกากรจะทำการตรวจวัตถุดิบเพื่อประเมินอากร แต่จะเป็นการชำระภาษีตามหน้าใบขนขาเข้าที่ใช้สิทธิมาตรา 36 ตามชนิดและปริมาณวัตถุดิบที่ BOI แจ้งไปยังกรมศุลกากรเพื่อให้เรียกภาษี
การตรวจที่โรงงานเพื่อประเมินอากร ปกติจะเป็นการชำระภาษีอากรเศษซากวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ และการชำระภาษีอากรตามสภาพสินค้าก่อนการจำหน่ายในประเทศ (ชำระภาษีปากระวาง) ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการให้ชำระภาษีอากรวัตถุดิบตามสภาพ ณ วันนำเข้า ครับ
|
<< ก่อนหน้า 1 ถัดไป >>