GUEST โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565, 17:16:35 (136 สัปดาห์ ก่อน)
|
ทางบริษัท มีการนำเข้าเครื่องจักร ภายใต้สิทธิ BOI เมื่อปี 2012 และมีความประสงค์ที่จะทำการจำหน่ายเครื่องจักร เนื่องจากเครื่องจักรมีแนวโน้มการเสื่อมสภาพ และต้องการซื้อเครื่องจักรใหม่ ภายในประเทศ ที่เป็นเครื่องที่ใช้ในกระบวนการเดียวกันมาทดแทน บริษัทต้องทำอยากได้บ้างคะ ต้องเสียภาษีนำเข้าย้อนหลังหรือไม่คะ และทางบริษัทเปิดใบแจ้งหนี้ขายโดยมีภาษีมูลค่าเพิ่มใช่หรือไม่คะ
บริษัท Su... |
ADMIN โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565, 19:06:43 (136 สัปดาห์ ก่อน)
|
1. การขอจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ให้ยื่นขออนุมัติผ่านระบบ eMT หากเป็นเครื่องจักรที่นำเข้ามาแล้วเกิน 5 ปี จะอนุญาตให้จำหน่ายได้ โดยไม่มีภาระภาษี 2. กรณีเครื่องจักรที่จำหน่าย เป็นเครื่องจักรหลัก จะต้องระบุด้วยว่าจะมีการซื้อเครื่องจักรใหม่มาทดแทนหรือไม่ หากไม่มีการซื้อมาทดแทน ต้องขอลดกำลังผลิตหรือแก้ไขกรรมวิธีการผลิต ให้สอดคล้องกับเครื่องจักรที่เหลืออยู่จริง 3. กรณีซื้อเครื่องจักรทดแทน จากในประเทศ ต้องเป็นเครื่องจักรใหม่เท่านั้น หากเป็นเครื่องจักรเก่าจากต่างประเทศ ต้องอายุไม่เกิน 5 ปี และมีใบรับรองประสิทธิภาพ แม้จะนำเข้ามาปรับปรุงโดยไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรก็ตาม 4. การจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ต้องเรียกเก็บ vat ด้วยตามปกติ 5. รายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักร เป็นรายได้ที่สามารถขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ตามสิทธิที่เหลืออยู่ |
NTCCC โพสต์เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฏาคม 2565, 14:56:32 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
รบกวนสอบถามขั้นตอนการขอจำหน่ายเครื่องจักรแบบมีภาระภาษีค่ะ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? ขอบคุณมากค่ะ |
ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2565, 09:19:58 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
ขั้นตอนคือ 1. ยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักรโดยมีภาระภาษี 2. คีย์ข้อมูลเลขที่หนังสืออนุมัติยกเว้นภาษี และเลขที่ใบขนขาเข้า 3. เลือกเครื่องจักรและจำนวนที่จะขอจำหน่าย 4. หากเป็นเครื่องจักรหลัก และทำให้กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 20% ต้องแนบหลักฐานการซื้อเครื่องจักรมาทดแทน / หรือต้องขอลดขนาดโครงการก่อน 5. เมื่อได้รับอนุมัติ ให้ติดต่อกรมศุลกากรเพื่อชำระภาษี 6. จากนั้นยื่นขอตัดบัญชีเครื่องจักรที่ชำระภาษี โดยคีย์ข้อมูล/แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จชำระภาษี ฯ ในระบบ emt ครับ |
NTCCC โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2565, 16:55:08 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
จากข้อความตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมจากข้อความนี้อยากสอบถามว่าคำนวณอย่างไร? ยกตัวอย่างเช่น บรษัท ได้รับส่งเสริมเป็นระยะเวลา5ปี กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งทำบัญชีเครื่องจักรไว้ว่าสามารถนำเข้าเครื่องจักร A ได้ 100 เครื่อง หลังจากได้รับการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร ได้ทำการนำเข้าเครื่องจักร A มาเป็นจำนวน 20 เครื่องภายในระยะเวลา 1 ปีต่อมาอยากจะทำจำหน่ายเครื่องจักร A แบบมีภาระภาษีออกจากโครงการจำนวน 2 เครื่อง และจะยังไม่มีเครื่องเข้ามาทดแทน จากตรงนี้บริษัทสามารถทำจำหน่ายได้หรือไม่คะ? ถ้าได้อยากทราบว่าจะต้องคำนวณอย่างไรที่ว่าต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมคะ? จากข้อความตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมจากข้อความนี้อยากสอบถามว่าคำนวณอย่างไร? ยกตัวอย่างเช่น บรษัท ได้รับส่งเสริมเป็นระยะเวลา5ปี กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งทำบัญชีเครื่องจักรไว้ว่าสามารถนำเข้าเครื่องจักร A ได้ 100 เครื่อง หลังจากได้รับการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร ได้ทำการนำเข้าเครื่องจักร A มาเป็นจำนวน 20 เครื่องภายในระยะเวลา 1 ปีต่อมาอยากจะทำจำหน่ายเครื่องจักร A แบบมีภาระภาษีออกจากโครงการจำนวน 2 เครื่อง และจะยังไม่มีเครื่องเข้ามาทดแทน จากตรงนี้บริษัทสามารถทำจำหน่ายได้หรือไม่คะ? ถ้าได้อยากทราบว่าจะต้องคำนวณอย่างไรที่ว่าต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมคะ? แก้ไขโดย NTCCC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2565, 16:55:13
|
ADMIN โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กรกฏาคม 2565, 12:43:16 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
บริษัทได้รับอนุมัติบัญชีเครื่องจักร A จำนวน 100 เครื่อง เป็นเครื่องจักรหลักของโครงการ ปัจจุบันนำเข้ามาแล้ว 20 เครื่อง แต่จะขอจำหน่าย 2 เครื่อง 1. เครื่องที่จะขอจำหน่าย 2 เครื่อง จะต้องชำระภาระภาษีตามสภาพ ณ วันที่อนุญาตให้จำหน่าย 2. บริษัทสามารถชี้แจงได้ว่า เป็นการจำหน่ายเพียง 2 เครื่อง จากจำนวน 100 เครื่อง ที่มีแผนจะลงทุน จึงทำให้กำลังผลิตลดลงเพียง 2 % ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องลดขนาดโครงการ 3. และหากบริษัทมีแผนจะซื้อเครื่องจักรเข้ามาทดแทนในส่วนที่จำหน่ายออกไป ก็สามารถขอแก้ไขบัญชีเครื่องจักร เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องจักร A จาก 100 เครื่อง เป็น 102 เครื่อง ได้ครับ |
NTCCC โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฏาคม 2565, 11:30:56 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
การทำจำหน่ายแบบไม่มีภาระภาษี เมื่อได้รับอนุมัติให้จำหน่ายแล้ว ยังสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่คะ กรณีได้ทำการตรวจเปิดดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วค่ะ |
ADMIN โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฏาคม 2565, 13:14:18 (125 สัปดาห์ ก่อน)
|
การจำหน่ายเครื่องจักรตามความหมายของ BOI คือ บริษัทไม่มีความประสงค์จะใช้เครื่องจักรนั้น ในโครงการที่ได้รับส่งเสริมอีกต่อไป BOI จึงอนุญาตให้จำหน่ายออกจากโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้นได้ แต่บริษัทอาจจะยังถือครองเครื่องจักรนั้นต่อไปก็ได้ เช่น อาจเพื่อนำไปใช้ในกิจการที่ไม่ได้รับส่งเสริม เป็นต้น หากบริษัทได้รับอนุญาตจำหน่ายเครื่องจักรโดยไม่มีภาระภาษี ให้ดำเนินการตัดรายการเครื่องจักรนั้น ออกจากบัญชีสินทรัพย์ของโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้น โดยผลผลิตที่เกิดจากเครื่องจักรนั้น จะไม่นับเป็นผลผลิตตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม หากบริษัทต้องการใช้เครื่องจักรในโครงการที่ได้รับส่งเสริมต่อไป ต้องไม่ใช่เป็นการยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักร แต่จะเป็นการยื่นขอตัดบัญชีภาษีเครื่องจักรที่นำเข้ามาเกินกว่า 5 ปี ครับ |
NTCCC โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566, 14:50:54 (98 สัปดาห์ ก่อน)
|
กรณีที่มีการรวมบัตรเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อ2554 โดยเลขที่บัตรจะเป็นเลข 50XX นั้น ซึ่ง บริษัท ทำการรวม2บัตรเข้าด้วยกัน จึงขอสอบถามว่า ถ้าเรามีการทำเรื่องขอจำหน่ายแบบไม่มีภาระภาษี จะต้องอ้างอิงในการทำคำร้องเป็นการจำหน่ายภายใต้บัตร 50XX ใช่หรือไม่คะ? แก้ไขโดย NTCCC เมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566, 14:51:37
|
ADMIN โพสต์เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม 2566, 13:09:14 (97 สัปดาห์ ก่อน)
|
กรณีมีการรวมบัตร A และบัตร B เป็นบัตร C ระบบ eMT จะไม่ได้ย้ายข้อมูลของเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิตามบัตร A และ B ให้มารวมอยู่ในบัตร C ดังนั้น หากต้องการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิของบัตรเก่า (บัตร A และ B) เช่น ขอจำหน่าย ขอตัดบัญชี ฯลฯ ให้ยื่นคำร้องภายใต้บัตรใหม่ (บัตร C) โดยให้เลือกเป็น "เครื่องจักรนอกระบบ" จากนั้นแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามเรื่องนั้นๆ เช่น สำเนาใบขนสินค้าขาเข้า ฯลฯ โดยในหมายเหตุ ให้ระบุว่าเป็นเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิของบัตร A (หรือ B) ซึ่งได้รับอนุญาตให้รวมโครงการเป็นบัตร C ครับ |
thun151 โพสต์เมื่อวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566, 13:35:23 (52 สัปดาห์ ก่อน)
|
บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว (ตัดบัญชีเครื่องจักรเกิน 5 ปีแล้ว) จึงเรียนสอบถามดังนี้ 1.บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว ควรจะยื่นเรื่องในระบบเป็นหัวข้อใด / ขอจำหน่ายเครื่องจักรใช่หรือไม่ 2.บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว สามารถขายแบบเศษซากได้หรือไม่ ควรจะยื่นเรื่องในระบบเป็นหัวข้อใด / สามารถยื่นขอทำลายเครื่องได้หรือไม่ 3.ตามรายการที่กล่าวมาบริษัทสามารถขายให้ผู้ซื้อในไทยได้หรือไม่ 4.กรณีที่ขายให้ผู้ซื้อในไทยทั้งแบบจำหน่าย และทำลายเป็นเศษซากแล้วขาย ต้องมีเอกสารอะไรเพื่อนำไปปรับยอดกับ IC หรือไม่ 5.ถ้าขายเครื่องจักรแล้ว ทำให้กำลังผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่า 80% หรือไม่มีการซื้อมาทดแทน จะต้องขอลดกำลังผลิตหรือแก้ไขกรรมวิธีการผลิต ให้สอดคล้องกับเครื่องจักรที่เหลืออยู่จริง ดังนั้นควรทำก่อนขาย หรือถ้ามีความจำเป็นต้องขายด่วน สามารถยื่นที่หลังได้ไหมค่ะ
ขอบคุณค่ะ |
ADMIN โพสต์เมื่อวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566, 17:55:46 (52 สัปดาห์ ก่อน)
|
ตอบคำถามดังนี้ 1. หากต้องการจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ให้ยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักร - หากนำเข้ายังไม่ครบ 5 ปี จะมีภาระภาษีตามสภาพ ณ วันที่อนุญาตให้จำหน่าย - หากนำเข้ามาครบ 5 ปีแล้ว จะไม่มีภาระภาษี 2. หากต้องการทำลาย (กรณีนำเข้ามายังไม่ครบ 5 ปี) - ให้ยื่นขอทำลายเครื่องจักร 3. การขอจำหน่ายเครื่องจักร ตามข้อ 1 หมายถึงการให้จำหน่ายในประเทศ 4. เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในแต่ละเรื่อง จะแตกต่างกัน ควรระบุเคสให้ชัดเจน เพื่อจะได้ตอบให้ตรงประเด็นได้มากกว่า 5. การจำหน่าย/ทำลายเครื่องจักร ที่จะทำให้กำลังผลิตลดลงกว่า 20% ต้องแสดงหลักฐานการจะซื้อเครื่องจักรทดแทน เช่น ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ หากไม่มีแผนการซื้อเครื่องจักรทดแทนที่ชัดเจน จะต้องยื่นขอลดกำลังผลิตของโครงการเดิมด้วย ครับ |
STEC โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567, 12:38:55 (43 สัปดาห์ ก่อน)
|
รบกวนสอบถามการจำหน่ายเครื่องจักร นำเข้าเกิน 5 ปี ดังนี้ค่ะ (บริษัทฯได้รับอนุมัติการเปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว) 1. ควรยื่นตัดบัญชีรายการเครื่องจักรก่อน หรือสามารถยื่นจำหน่ายเครื่องจักรได้เลย 2.เครื่องจักรที่ต้องการจำหน่ายคือเครื่องจักรหลักอยู่ในกระบวนการที่ 4 มีทั้งหมด 9 เครื่อง จำหน่าย 1 เครื่อง ซึ่งจำหน่ายแล้ว กำลังการผลิตลดลง 10% ทางบริษัทไม่มีแพลนที่จะซื้อเครื่องใหม่มาทดแทน จะสามารถจำหน่ายได้หรือไม่ 3.ในกรณีที่บริษัทมีแพลนจะขอเพิ่มกำลังการผลิตจากวันทำงาน ควรจะเพิ่มก่อนหรือหลังจากการจำหน่ายเครื่องจักร 4.ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานการสั่งซื้อจากผู้ซื้อ สามารถใช้เอกสารอื่นแทนได้หรือไม่ เพิ่มเติม......หากต้องการขายเครื่องจักรในกระบวนการอื่น สามารถทำได้หรือไม่อย่างไร ในการคำนวนกำลังการผลิตตอนเปิดดำเนินการ คำนวนจากกระบวนการสุดท้ายคือกระบวนการที่ 4 ค่ะ ขอบคุณค่ะ |
ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567, 14:40:08 (43 สัปดาห์ ก่อน)
|
ตอบคำถามดังนี้ 1. เครื่องจักรที่นำเข้าเกิน 5 ปี สามารถยื่นขอจำหน่ายโดยไม่ต้องยื่นขอตัดบัญชีก่อน 2. หากการจำหน่ายเครื่องจักร จะทำให้กำลังผลิตลดลง 10% โดยไม่ซื้อเครื่องจักรมาทดแทน 3. การขอเพิ่มกำลังผลิตโดยเพิ่มเวลาทำงาน กับการขอจำหน่ายเครื่องจักรที่ทำให้กำลังผลิตลดลง 10% จะยื่นเรื่องใดก่อนก็ได้ 4. กรณีที่ไม่มีหลักฐานการสั่งซื้อจากผู้ซื้อ สามารถใช้เอกสารอื่นแทนได้หรือไม่ 5. การขอจำหน่ายเครื่องจักร เช่น เครื่องจักร A เป็นเครื่องจักรที่ใช้คำนวณกำลังผลิตของโครงการ |
STEC โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567, 15:44:49 (40 สัปดาห์ ก่อน)
|
ในข้อกำหนดตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริม นั่น ความหมายคืออย่างไรคะ และมีคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ ในกรณีที่ขายเครื่องจักรแล้วกำลังการผลิตลดลงไม่ถึง 20% ทางบริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายได้ในปริมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติ หรือปริมาณที่ลดลงหลังจากขายเครื่องจักร ขอบคุณค่ะ |
ADMIN โพสต์เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567, 17:51:04 (40 สัปดาห์ ก่อน)
|
หากบริษัทได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องจักร โดยไม่ต้องปรับลดกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม หมายความว่า บริษัทจะยังคงผลิตจำหน่ายได้ตามกำลังผลิตเดิมที่ระบุในบัตรส่งเสริม และตามเวลาทำงานที่ระบุไว้เดิม ยกตัวอย่างเช่น เดิมบริษัทมีกำลังผลิตตามบัตรส่งเสริม 10,000,000 ชิ้น โดยมีเครื่องจักร 10 เครื่อง หากต่อมาได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องจักร 2 เครื่อง เหลือเครื่องจักร 8 เครื่อง ทำให้กำลังผลิตจากการคำนวณเป็น 8,000,000 ชิ้น กรณีนี้ กำลังผลิตในบัตรส่งเสริม จะยังคงเป็น 10,000,000 ชิ้น ตามเดิม ดังนั้น บริษัทสามารถใช้เครื่องจักร 8 เครื่องที่เหลือ ผลิตสินค้า ตามเวลาทำงานที่ระบุในบัตรส่งเสริม เกินกว่า 8,000,000 ชิ้น แต่ไม่เกืน 10,000,000 ชิ้น ได้ ครับ |
<< ก่อนหน้า 1 ถัดไป >>